นราธิวาส - สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนราธิวาส เตรียมรับมือหน้าแล้ง หลังระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ลดลงมาก ซึ่งระดับน้ำในพื้นที่ป่าพรุก็ลดลงเช่นกัน เจ้าหน้าที่จะต้องมีการเฝ้าระวังพื้นที่ป่าพรุเพื่อป้องกันเหตุไฟไหม้ป่าซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงหน้าแล้งปีนี้อาจยาวถึง 4 เดือน
วันนี้ (7 มี.ค.) หลังจากในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ฝนได้ทิ้งช่วงตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ลดลงจากช่วงปกติมาก ขณะที่ระดับน้ำในพื้นที่ป่าพรุ ก็ลดลงเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องมีการเฝ้าระวังพื้นที่ป่าพรุเพื่อป้องกันเหตุไฟไหม้ป่าซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงหน้าแล้ง
ขณะที่ด้านนายมาหามะพีสกรี วาแม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในปีนี้จังหวัดนราธิวาส ถือว่ามีปริมาณฝนน้อยกว่าทุกปีเมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. ของปีที่แล้ว ซึ่งอาจจะส่งผลให้ในพื้นที่เกิดภัยแล้งยาวถึง 4 เดือน ซึ่งทางจังหวัดจะต้องเตรียมความพร้อมไว้ โดยทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส ได้มีการซักซ้อมเจ้าหน้าที่ในการดับไฟในเบื้องต้นแล้ว
ขณะที่ผลการบินสำรวจในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พบว่า สถานการณ์ภัยแล้งที่อาจส่งผลให้เกิดอัคคีภัยได้ง่าย มี 2 จุดสำคัญ คือ พื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดง ที่ครอบคลุม 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงปาดี อ.ตากใบ อ.เมือง และ อ.เจาะไอร้อง และพื้นที่พรุบาเจาะ ที่ครอบคลุมพื้นที่ อ.บาเจาะ อ.เมือง และ อ.ยี่งอ เนื่องจากไฟจะลุกไหม้จากใต้ผิวดิน ประกอบกับเศษไม้ และเศษวัชพืชที่คลุมดิน รวมทั้งต้นไม้ในป่าที่พรุเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่ทำให้ไฟลุกลามเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งขณะนี้เริ่มมีรายงานเหตุไฟไหม้ป่าเข้ามาแล้ว