ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าของเรือ “อันดาวารี 919” แจงเหตุเรือประสบอุบัติเหตุกระแทกขอนไม้ในทะเลมีแค่รอยปริเล็กน้อย นักท่องเที่ยวได้รับการช่วยเหลือปลอดภัยภายในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง ขณะที่มาตรการการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวเดินทางโดยเรือเข้มงวดมาโดยตลอด ทำให้การช่วยเหลือสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว สร้างความพอใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
นายกฤษฎา พิเชฐพงษานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัทอันดาวารี จำกัด แถลงข่าวชี้แจงกรณี เรืออันดาวารี 919 ถูกขอนไม้ที่ลอยอยู่ในทะเลชนกระแทกโดนส่วนหน้าของเรือทำให้เรือมีรอยปริ และน้ำไหลเข้าเรือ ขณะที่นำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 47 คน และลูกเรือ จำนวน 5 คน เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะพีพี จ.กระบี่ ว่า เมื่อวานนี้ (6 มี.ค.) เรืออันดาวารี 919 ขนาด 3 เครื่องยนต์ นำนักท่องเที่ยวออกจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลองเวลาประมาณ 09.00 น. เพื่อเดินทางไปยังเกาะพีพี แต่เวลาประมาณ 11.00 น. ทางบริษัทได้รับแจ้งจากกัปตันเรือ ว่า เรือประสบอุบัติเหตุถูกขอนไม้ที่ลอยอยู่ในทะเลกระแทกถูกบริเวณส่วนหัวของเรือ ทำให้เรือมีรอยปริ และน้ำเข้าเรือ ขอให้ส่งเรือไปรับนักท่องเที่ยวด้วย
หลังจากรับแจ้งก็ได้มีการประสาน และส่งเรือออกไปช่วยเหลือทันที โดยส่งเรือจากภูเก็ตไป 1 ลำ และเรือจากเกาะมาหยา จ.กระบี่ 1 ลำ ซึ่งเรือสามารถเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุในเวลาประมาณ 30 นาที พร้อมรับนักท่องเที่ยวบางสวนกลับมาส่งยังจังหวัดภูเก็ต และเกาะพีพีอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่รอเรือไปรับไกด์ประจำเรือได้แจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาโดยการขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวบางส่วนลงไปลอยคอในทะเล เพื่อทำให้เรือบรรทุกน้อยลง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ในขณะที่นักท่องเที่ยวประมาณ 10 คน ลงไปอยู่ในทะเล มีเรือที่ผ่านมาได้แวะรับนักท่องเที่ยวไปส่งที่เกาะพีพีทันที ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งหมดได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย และทุกคนก็พอใจกับมาตรการในการช่วยเหลือของทางบริษัทเป็นอย่างดี
นายกฤษฎา กล่าวต่อไปว่า หลังจากรับนักท่องเที่ยวออกจากเรือลำที่เกิดเหตุหมดแล้ว กัปตันประจำเรือ พร้อมลูกเรือบางส่วนก็ได้นำเรือลำดังกล่าวขับกลับเข้าฝั่งทันทีเช่นเดียวกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า จุดที่มีรอยกระแทกอยู่บริเวณส่วนหน้าของเรือ และอยู่เหนือจากส่วนที่จมน้ำขึ้นมา พอเรือไม่มีผู้โดยสารจุดที่มีรอยรั่วก็ลอยอยู่เหนือน้ำแล้ว ทำให้สามารถขับกลับมาได้อย่างปลอดภัย ส่วนนักท่องเที่ยวนั้นมีบางส่วนที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่อ แต่มีบางคนที่ขอเดินทางกลับมาที่จังหวัดภูเก็ต และขอออกไปเที่ยวต่อในวันนี้กับเรือของบริษัท อย่างไรก็ตาม ในการดุแลนักท่องเที่ยวที่เดินทางกับเรือของบริษัท ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลอย่างเข้มงวด ทั้งเรื่องของเสื้อชูชีพที่จะต้องมีเพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสาร การบรรทุกจะต้องไม่บรรทุกเกินน้ำหนัก คนขับเรือจะต้องมีความพร้อม และมีการตรวจสภาพเรืออยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้น ยังมีการเตรียมเรือสำรองกรณีฉุกเฉินด้วย ซึ่งเรื่องของการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวยืนยันว่ามีความพร้อมตลอดเวลา
และก่อนหน้านี้ ตนมีแนวคิดที่จะจัดตั้งชมรมเรือท่องเที่ยวขึ้น เพื่อที่จะช่วยกันดูแล และควบคุมเรือนำเที่ยวโดยเฉพาะเรือสปีดโบตที่นำนักท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยเฉพาะเรื่องของการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ถ้าหากทำได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวด้วย ที่สำคัญคือ เรื่องของการควบคุมดูแลในส่วนของเรือท่องเที่ยวที่เป็นของชาวต่างชาติ ซึ่งมีทั้งจีน และรัสเซีย ที่เข้ามาทำเรือรับส่งนักท่องเที่ยวเอง ซึ่งคนเหล่านี้อาจจะมีความคิดไม่เหมือนคนบ้านเราในเรื่องของการรักษาชื่อเสียงเมืองท่องเที่ยว เพราะเขาเข้ามาเพื่อหารายได้ และกอบโกยผลประโยชน์ เมื่อหมดผลประโยชน์แล้วก็จากไป ทิ้งไว้แต่ความเสียหายให้แก่บ้านเรา
นายกฤษฎา พิเชฐพงษานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัทอันดาวารี จำกัด แถลงข่าวชี้แจงกรณี เรืออันดาวารี 919 ถูกขอนไม้ที่ลอยอยู่ในทะเลชนกระแทกโดนส่วนหน้าของเรือทำให้เรือมีรอยปริ และน้ำไหลเข้าเรือ ขณะที่นำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 47 คน และลูกเรือ จำนวน 5 คน เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะพีพี จ.กระบี่ ว่า เมื่อวานนี้ (6 มี.ค.) เรืออันดาวารี 919 ขนาด 3 เครื่องยนต์ นำนักท่องเที่ยวออกจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลองเวลาประมาณ 09.00 น. เพื่อเดินทางไปยังเกาะพีพี แต่เวลาประมาณ 11.00 น. ทางบริษัทได้รับแจ้งจากกัปตันเรือ ว่า เรือประสบอุบัติเหตุถูกขอนไม้ที่ลอยอยู่ในทะเลกระแทกถูกบริเวณส่วนหัวของเรือ ทำให้เรือมีรอยปริ และน้ำเข้าเรือ ขอให้ส่งเรือไปรับนักท่องเที่ยวด้วย
หลังจากรับแจ้งก็ได้มีการประสาน และส่งเรือออกไปช่วยเหลือทันที โดยส่งเรือจากภูเก็ตไป 1 ลำ และเรือจากเกาะมาหยา จ.กระบี่ 1 ลำ ซึ่งเรือสามารถเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุในเวลาประมาณ 30 นาที พร้อมรับนักท่องเที่ยวบางสวนกลับมาส่งยังจังหวัดภูเก็ต และเกาะพีพีอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่รอเรือไปรับไกด์ประจำเรือได้แจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาโดยการขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวบางส่วนลงไปลอยคอในทะเล เพื่อทำให้เรือบรรทุกน้อยลง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ในขณะที่นักท่องเที่ยวประมาณ 10 คน ลงไปอยู่ในทะเล มีเรือที่ผ่านมาได้แวะรับนักท่องเที่ยวไปส่งที่เกาะพีพีทันที ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งหมดได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย และทุกคนก็พอใจกับมาตรการในการช่วยเหลือของทางบริษัทเป็นอย่างดี
นายกฤษฎา กล่าวต่อไปว่า หลังจากรับนักท่องเที่ยวออกจากเรือลำที่เกิดเหตุหมดแล้ว กัปตันประจำเรือ พร้อมลูกเรือบางส่วนก็ได้นำเรือลำดังกล่าวขับกลับเข้าฝั่งทันทีเช่นเดียวกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า จุดที่มีรอยกระแทกอยู่บริเวณส่วนหน้าของเรือ และอยู่เหนือจากส่วนที่จมน้ำขึ้นมา พอเรือไม่มีผู้โดยสารจุดที่มีรอยรั่วก็ลอยอยู่เหนือน้ำแล้ว ทำให้สามารถขับกลับมาได้อย่างปลอดภัย ส่วนนักท่องเที่ยวนั้นมีบางส่วนที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่อ แต่มีบางคนที่ขอเดินทางกลับมาที่จังหวัดภูเก็ต และขอออกไปเที่ยวต่อในวันนี้กับเรือของบริษัท อย่างไรก็ตาม ในการดุแลนักท่องเที่ยวที่เดินทางกับเรือของบริษัท ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลอย่างเข้มงวด ทั้งเรื่องของเสื้อชูชีพที่จะต้องมีเพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสาร การบรรทุกจะต้องไม่บรรทุกเกินน้ำหนัก คนขับเรือจะต้องมีความพร้อม และมีการตรวจสภาพเรืออยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้น ยังมีการเตรียมเรือสำรองกรณีฉุกเฉินด้วย ซึ่งเรื่องของการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวยืนยันว่ามีความพร้อมตลอดเวลา
และก่อนหน้านี้ ตนมีแนวคิดที่จะจัดตั้งชมรมเรือท่องเที่ยวขึ้น เพื่อที่จะช่วยกันดูแล และควบคุมเรือนำเที่ยวโดยเฉพาะเรือสปีดโบตที่นำนักท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยเฉพาะเรื่องของการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ถ้าหากทำได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวด้วย ที่สำคัญคือ เรื่องของการควบคุมดูแลในส่วนของเรือท่องเที่ยวที่เป็นของชาวต่างชาติ ซึ่งมีทั้งจีน และรัสเซีย ที่เข้ามาทำเรือรับส่งนักท่องเที่ยวเอง ซึ่งคนเหล่านี้อาจจะมีความคิดไม่เหมือนคนบ้านเราในเรื่องของการรักษาชื่อเสียงเมืองท่องเที่ยว เพราะเขาเข้ามาเพื่อหารายได้ และกอบโกยผลประโยชน์ เมื่อหมดผลประโยชน์แล้วก็จากไป ทิ้งไว้แต่ความเสียหายให้แก่บ้านเรา