ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จังหวัดสงขลาประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว 7 อำเภอ ขณะที่ อบจ.สงขลา ตั้งงบ 50 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง และหากในช่วงเดือนมีนาคมยังไม่มีฝนตกลงมาภัยแล้งจะลุกลามวงกว้างเพิ่มขึ้น
วันนี้ (4 มี.ค.) สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.สงขลา เริ่มน่าเป็นห่วง หลังจากที่ฝนทิ้งช่วงมานานหลายเดือน โดยนายอำนาจ ผลมาตย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการเกษตร เช่น อ.สะเดา อ.หาดใหญ่ อ.จะนะ และได้ร้องขอรถบรรทุกน้ำลงไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และหากในช่วงเดือนมีนาคมยังไม่มีฝนตกลงมา ภัยแล้งจะลุกลามวงกว้างเพิ่มขึ้น ซึ่งทาง ปภ.สงขลา เตรียมจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือภัยแล้งแล้ว
ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา รายงานสภาพอากาศในภาคใต้ฝั่งตะวันออกว่า ร้อน และแห้งแล้งตลอดต่อเนื่องเดือนมีนาคม-เมษายน และยังไม่มีปัจจัยใดที่ก่อให้เกิดฝนตกในระยะนี้ คาดว่าภัยแล้งจะรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลาเปิดเผยว่า อบจ.ได้รับการร้องเรียนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อ.สิงหนคร อ.สทิงพระ อ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.จะนะ และ อ.สะเดา ว่า กำลังประสบปัญหาการขาดขาดแคลนน้ำจืดเพื่อการเกษตร และปศุสัตว์ ทาง อบจ.ได้ส่งรถบรรทุกน้ำ เครื่องสูบน้ำไปแก้ปัญหาในเบื้องต้นแล้ว และได้ตั้งงบประมาณสำรองไว้ 50 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง
ส่วน นายกฤษฏา บุญาราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ในที่ประชุมหัวหน้าส่วนประจำเดือน ก.พ.ได้สอบถามตัวแทนชลประทานเกี่ยวกับระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำสะเดา อ่างจังไหร ซึ่งเป็นอ่างที่สำคัญของ จ.สงขลา ขณะนี้ยังเหลือน้ำในอ่างประมาณร้อยละ 50 หากฝนทิ้งช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. จะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการเกษตร ตนสั่งกำชับอุตสาหกรรมฯ เข้าไปตรวจตราโรงงานที่ตั้งอยู่ใกล้กับคลองอู่ตะเภา ห้ามไม่ให้ปล่อยน้ำเสียลงในคลองอู่ตะเภาเป็นอันขาด