ยะลา - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ายันอิหม่ามมัสยิดกูยิ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต เป็นบุคคลที่ให้ความร่วมมือต่อทางราชการ เชื่อคนร้ายหวังสร้างเงื่อนไขโยนผิดให้เจ้าหน้าที่รัฐตามสูตร
จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายกอรี ดอเลาะ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/2 ม.5 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นโต๊ะอิหม่ามมัสยิดกูยิ ม.5 ต.ตะปอเยาะ เสียชีวิต และ นายอาริส ดอเลาะ อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นบุตรชาย ได้รับบาดเจ็บขณะขี่รถจักรยานยนต์ เหตุเกิดบนถนนหน้าโรงเรียนบ้านบลูกาสนอ ม.4 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 2 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (3 มี.ค.) ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า กรณีเหตุการณ์ของคนร้ายยิงโต๊ะอิหม่ามที่ อ.ยี่งอ เสียชีวิต ก็ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของท่านอิหม่าม ที่ต้องสูญเสียผู้นำที่ดีๆ ไปอีกคนหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมา ท่านอิหม่ามกอลี นอกจากจะเป็นอิหม่ามแล้ว ก็เป็นประธานชมรมตาดีกาของยี่งอ ยังเป็นผู้ที่ให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ในการแก้ปัญหาในพื้นที่มาโดยตลอด โดยเฉพาะการแก้ปัญหาด้านยาเสพติดตามโครงการมัสยิดสานใจในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเห็นได้ว่าพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุใช้พฤติกรรมแบบเดิมๆ คือ การสร้างสถานการณ์ และโยนความผิดให้ทางเจ้าหน้าที่เพื่อไปตอบโต้กับพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็เห็นได้ว่า พฤติกรรมของคนร้ายก็พยายามแต่งกายให้คล้ายเจ้าหน้าที่เพื่อสร้างความสบสนให้แก่สังคม และจากการตรวจสอบกระสุนที่ใช้ในการก่อเหตุพบว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนแบบลูกโม่ เนื่องจากไม่พบปอกกระสุนในที่เกิดเหตุ โดยการผ่าตัดพบว่า อาวุธปืนที่ใช้ในที่เกิดเหตุครั้งนี้เป็นอาวุธปืน .357
“พฤติกรรมของคนร้ายในช่วงนี้จะเห็นได้ว่าเขาพยายามที่จะสร้างสถานการณ์ความขัดแย่ง โดยเฉพาะพี่น้องที่นับถือศาสนาต่างกัน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวโดยสอดรับกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมทั้งในพื้นที่ และต่างประเทศ ในช่วงที่ผ่านมาเขาจะพยายามเร่งเร้าสถานการณ์ให้ดูรุนแรงมากขึ้น เมื่อเช้าที่ผ่านมา ท่าน พล.ต.ชรินทร์ อมรแก้ว รองผู้อำนวยการในความมั่นคงภาค 4 ส่วนหน้า ท่านได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรในการดูแลความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น เป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ และเป้าหมายอ่อนแอ นอกจากนี้ ในการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้ในสั่งการให้หน่วยนาวิกโยธินกองทัพเรือ และทางตำรวจได้เร่งรัดในการติดตามคนร้ายเพื่อความจริงให้ปรากฏให้เร็วที่สุด” โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าว
พ.อ.ปราโมทย์ ยังกล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุ ทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ และท่านนายอำเภอยี่งอ ก็ได้เข้าไปพบปะกับทางญาติของผู้ที่เสียชีวิต และบาดเจ็บ ทางญาติเขาเข้าใจดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งสืบสวนสอบสวนในเรื่องของการทำความจริงให้ปรากฏ ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุ ท่าน พล.ต.ชรินทร์ อมรแก้ว รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ก็ได้สั่งการเน้นย้ำเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้แก่เป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อป้องกันความพยายามที่จะสร้างสถานการณ์เหล่านี้ตอบโต้กับพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์
จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายกอรี ดอเลาะ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/2 ม.5 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นโต๊ะอิหม่ามมัสยิดกูยิ ม.5 ต.ตะปอเยาะ เสียชีวิต และ นายอาริส ดอเลาะ อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นบุตรชาย ได้รับบาดเจ็บขณะขี่รถจักรยานยนต์ เหตุเกิดบนถนนหน้าโรงเรียนบ้านบลูกาสนอ ม.4 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 2 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (3 มี.ค.) ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า กรณีเหตุการณ์ของคนร้ายยิงโต๊ะอิหม่ามที่ อ.ยี่งอ เสียชีวิต ก็ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของท่านอิหม่าม ที่ต้องสูญเสียผู้นำที่ดีๆ ไปอีกคนหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมา ท่านอิหม่ามกอลี นอกจากจะเป็นอิหม่ามแล้ว ก็เป็นประธานชมรมตาดีกาของยี่งอ ยังเป็นผู้ที่ให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ในการแก้ปัญหาในพื้นที่มาโดยตลอด โดยเฉพาะการแก้ปัญหาด้านยาเสพติดตามโครงการมัสยิดสานใจในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเห็นได้ว่าพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุใช้พฤติกรรมแบบเดิมๆ คือ การสร้างสถานการณ์ และโยนความผิดให้ทางเจ้าหน้าที่เพื่อไปตอบโต้กับพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็เห็นได้ว่า พฤติกรรมของคนร้ายก็พยายามแต่งกายให้คล้ายเจ้าหน้าที่เพื่อสร้างความสบสนให้แก่สังคม และจากการตรวจสอบกระสุนที่ใช้ในการก่อเหตุพบว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนแบบลูกโม่ เนื่องจากไม่พบปอกกระสุนในที่เกิดเหตุ โดยการผ่าตัดพบว่า อาวุธปืนที่ใช้ในที่เกิดเหตุครั้งนี้เป็นอาวุธปืน .357
“พฤติกรรมของคนร้ายในช่วงนี้จะเห็นได้ว่าเขาพยายามที่จะสร้างสถานการณ์ความขัดแย่ง โดยเฉพาะพี่น้องที่นับถือศาสนาต่างกัน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวโดยสอดรับกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมทั้งในพื้นที่ และต่างประเทศ ในช่วงที่ผ่านมาเขาจะพยายามเร่งเร้าสถานการณ์ให้ดูรุนแรงมากขึ้น เมื่อเช้าที่ผ่านมา ท่าน พล.ต.ชรินทร์ อมรแก้ว รองผู้อำนวยการในความมั่นคงภาค 4 ส่วนหน้า ท่านได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรในการดูแลความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น เป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ และเป้าหมายอ่อนแอ นอกจากนี้ ในการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้ในสั่งการให้หน่วยนาวิกโยธินกองทัพเรือ และทางตำรวจได้เร่งรัดในการติดตามคนร้ายเพื่อความจริงให้ปรากฏให้เร็วที่สุด” โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าว
พ.อ.ปราโมทย์ ยังกล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุ ทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ และท่านนายอำเภอยี่งอ ก็ได้เข้าไปพบปะกับทางญาติของผู้ที่เสียชีวิต และบาดเจ็บ ทางญาติเขาเข้าใจดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งสืบสวนสอบสวนในเรื่องของการทำความจริงให้ปรากฏ ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุ ท่าน พล.ต.ชรินทร์ อมรแก้ว รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ก็ได้สั่งการเน้นย้ำเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้แก่เป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อป้องกันความพยายามที่จะสร้างสถานการณ์เหล่านี้ตอบโต้กับพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์