นครศรีธรรมราช - คนร้ายดักยิงสาวใหญ่ขณะกำลังกรีดยางภายในสวนยางผู้ตาย จนท.ตั้ง 2 ประเด็นคือ เรื่องชู้สาว เนื่องจากสามีผู้ตายมีภรรยา 2 คน และประเด็นเรื่องขัดแย้งที่ดินสวนยาง
เมื่อเวลา 03.30 น. วันนี้ (1 มี.ค.) พ.ต.ท.ปรีชา ฉิมภักดี พนักงานสอบสวน สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรมในสวนยางพาราบ้านท่าข้าม ม.6 ต.ควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เผ่าชู ผกก. พ.ต.ท.ปิยะวัฒน์ สุพรรณพงศ์ รองผกก.ป. พ.ต.ท.ศิริพร ช่วยคุ้ม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุรสิทธิ์ ปานทน สวป. นำกำลังตำรวจ แพทย์ และเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุภายในสวนยางพาดังกล่าว พบศพผู้ตายทราบชื่อคือ นางลิ้ม พูลนาศรี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/36 ม.4 ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช นอนตะแคงจมเลือดอยู่บริเวณร่องทางเดินในสวน อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเทา กางเกงขายาวสีกรมท่า สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 เข้าที่กกหูซ้ายกระสุนฝังใน 2 นัด และโหนกแก้มซ้ายกระสุนฝังในอีก 1 นัด ส่วนคนร้ายไม่ทราบจำนวน ซึ่งได้อาศัยความมืดหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะไปถึง
ทั้งนี้ นายสำเริง คงสวัสดิ์ อายุ 48 ปี สามีของนางลิ้ม ผู้ตายซึ่งไปกรีดยางพร้อมกัน ให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ว่า มีอาชีพทำสวนยางพารา ก่อนเกิดเหตุตนขับรถ มีนางลิ้ม นั่งซ้อนท้ายออกจากบ้านมากรีดยางในสวนยางที่เกิดเหตุ หลังจากมาถึง นางลิ้ม ไปกรีดยางแปลงที่เกิดเหตุ ส่วนตนเองก็ขับเลยไปกรีดยางอีกแปลงที่อยู่ติดกัน หลังจากนั้นปรากฏว่า มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดติดต่อกัน ตอนนั้นไม่กล้าออกไปดูเพราะกลัว หลังมั่นใจว่าไม่มีอะไรแล้วก็เดินไปรุดมาดูภรรยาพบถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เผ่าชู ผกก.สภ.ชะอวด กล่าวว่า ประเด็นการตายเบื้องต้นได้ตั้งไว้คือ เรื่องชู้สาว ซึ่งการสอบสวนของตำรวจพบว่า นายสำเริง สามีของนางลิ้ม ผู้ตายมีภรรยาอยู่อีกคน และนายสำเริง กับนางลิ้ม มีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำ เนื่องจากนางลิ้ม เกิดความหึงหวงจนมีการทะเลาะกันระหว่างภรรยาน้อยภรรยาหลวงหลายครั้ง ถึงขั้นข่มขู่เอาชีวิตกัน อาจจะเป็นไปได้ว่าฝ่ายตรงข้ามถือโอกาสนี้เข้าไปก่อเหตุยิงนางลิ้ม จนเสียชีวิต
“ขณะเดียวกัน ยังพบว่ามีกรณีความขัดแย้งระหว่างผู้ตายกับเพื่อนบ้าน เรื่องแนวเขตที่ดินในสวนยางพารา โดยการสอบสวนพบว่า มีกรณีพิพาทกันอยู่ และตกลงเรื่องแนวเขตที่ดินไม่ได้ ทำให้มีเรื่องทะเลาะกับคู่กรณีรุนแรง ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นนี้มีน้ำหนักพอๆ กัน โดยจะสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนในการตามล่าคนร้ายซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่มาดำเนินคดีต่อไป” ผกก.สภ.ชะอวดกล่าว
เมื่อเวลา 03.30 น. วันนี้ (1 มี.ค.) พ.ต.ท.ปรีชา ฉิมภักดี พนักงานสอบสวน สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรมในสวนยางพาราบ้านท่าข้าม ม.6 ต.ควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เผ่าชู ผกก. พ.ต.ท.ปิยะวัฒน์ สุพรรณพงศ์ รองผกก.ป. พ.ต.ท.ศิริพร ช่วยคุ้ม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุรสิทธิ์ ปานทน สวป. นำกำลังตำรวจ แพทย์ และเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุภายในสวนยางพาดังกล่าว พบศพผู้ตายทราบชื่อคือ นางลิ้ม พูลนาศรี อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/36 ม.4 ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช นอนตะแคงจมเลือดอยู่บริเวณร่องทางเดินในสวน อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเทา กางเกงขายาวสีกรมท่า สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 เข้าที่กกหูซ้ายกระสุนฝังใน 2 นัด และโหนกแก้มซ้ายกระสุนฝังในอีก 1 นัด ส่วนคนร้ายไม่ทราบจำนวน ซึ่งได้อาศัยความมืดหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะไปถึง
ทั้งนี้ นายสำเริง คงสวัสดิ์ อายุ 48 ปี สามีของนางลิ้ม ผู้ตายซึ่งไปกรีดยางพร้อมกัน ให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ว่า มีอาชีพทำสวนยางพารา ก่อนเกิดเหตุตนขับรถ มีนางลิ้ม นั่งซ้อนท้ายออกจากบ้านมากรีดยางในสวนยางที่เกิดเหตุ หลังจากมาถึง นางลิ้ม ไปกรีดยางแปลงที่เกิดเหตุ ส่วนตนเองก็ขับเลยไปกรีดยางอีกแปลงที่อยู่ติดกัน หลังจากนั้นปรากฏว่า มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดติดต่อกัน ตอนนั้นไม่กล้าออกไปดูเพราะกลัว หลังมั่นใจว่าไม่มีอะไรแล้วก็เดินไปรุดมาดูภรรยาพบถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เผ่าชู ผกก.สภ.ชะอวด กล่าวว่า ประเด็นการตายเบื้องต้นได้ตั้งไว้คือ เรื่องชู้สาว ซึ่งการสอบสวนของตำรวจพบว่า นายสำเริง สามีของนางลิ้ม ผู้ตายมีภรรยาอยู่อีกคน และนายสำเริง กับนางลิ้ม มีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำ เนื่องจากนางลิ้ม เกิดความหึงหวงจนมีการทะเลาะกันระหว่างภรรยาน้อยภรรยาหลวงหลายครั้ง ถึงขั้นข่มขู่เอาชีวิตกัน อาจจะเป็นไปได้ว่าฝ่ายตรงข้ามถือโอกาสนี้เข้าไปก่อเหตุยิงนางลิ้ม จนเสียชีวิต
“ขณะเดียวกัน ยังพบว่ามีกรณีความขัดแย้งระหว่างผู้ตายกับเพื่อนบ้าน เรื่องแนวเขตที่ดินในสวนยางพารา โดยการสอบสวนพบว่า มีกรณีพิพาทกันอยู่ และตกลงเรื่องแนวเขตที่ดินไม่ได้ ทำให้มีเรื่องทะเลาะกับคู่กรณีรุนแรง ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นนี้มีน้ำหนักพอๆ กัน โดยจะสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนในการตามล่าคนร้ายซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่มาดำเนินคดีต่อไป” ผกก.สภ.ชะอวดกล่าว