สธ.เผยเหตุ “อนนท์ ไทยดี” เหยื่อบึ้มอนุสาวรีย์ชัยฯสิ้นลม ไม่เกี่ยวอาการบาดเจ็บจากเหตุระเบิด ระบุเกิดจากโรคลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดปอด
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่โรงพยาบาลสงฆ์ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีการชุมนุมทางการเมือง (ส่วนหน้า) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 2556 ถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 628 ราย ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 14 ราย เสียชีวิตรวม 11 ราย โดยรายล่าสุดคือ นายอนนท์ ไทยดี อายุ 65 ปี ผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพักรักษาตัวในโรงพยาบาลราชวิถี ได้เสียชีวิตแล้ว
นพ.อุดม เชาวรินทร์ ผู้อำนวยการ รพ.ราชวิถี กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตของนายอนนท์ จากการตรวจสอบพบว่าไม่เกี่ยวกับจากการบาดเจ็บที่ได้รับ เนื่องจากเดิมทีผู้บาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณเยื่อบุในสมอง และได้รับการเย็บแผล ได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้น ซึ่งแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่ปรากฏว่าประมาณวันที่ 9-10 ก.พ.ที่ผ่านมา กลับมีอาการแน่นหน้าอก จึงต้องทำการซีทีสแกน เอกซเรย์บริเวณปอด จนพบว่ามีอาการของโรคลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดปอด (Pulmonary Embolism) จนเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งแพทย์พยาบาลช่วยชีวิตแล้ว
นพ.สมเกียรติ เกษมธรรมคุณ นายแพทย์เชี่ยวชาญ รพ.สงฆ์ กล่าวว่า สำหรับผู้บาดเจ็บทั้งหมด 628 รายนั้น ตัวเลขของ สธ.อาจมากกว่าของตัวเลขศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร เนื่องจาก สธ.จะรวมตัวเลขบริเวณปริมณฑลด้วย อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมตัวเลขดังกล่าวพบว่า มีตัวเลขผู้บาดเจ็บที่ตกหล่น เนื่องจากอยู่ รพ.เอกชน แต่อาการไม่หนัก โดยพบว่า เป็นหญิงอายุ 19 ปี ถูกยิงบริเวณแจ้งวัฒนะ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยถูกยิงหลังด้านขวา กระสุนฝังในปอด แต่แพทย์ทำการผ่าตัด จนอาการดีขึ้น ขณะนี้สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว ส่วนรายที่ได้รับบาดเจ็บล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 11 ก.พ.เป็นชายอายุ 30 ปี ที่บาดเจ็บศีรษะ บริเวณทำเนียบรัฐบาล ได้ส่งรักษาตัวที่ รพ.รามาธิบดี เบื้องต้นพบว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปะทะจากเหตุชุมนุม แต่เกิดจากการทะเลาะกันเอง
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่โรงพยาบาลสงฆ์ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีการชุมนุมทางการเมือง (ส่วนหน้า) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 2556 ถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 628 ราย ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 14 ราย เสียชีวิตรวม 11 ราย โดยรายล่าสุดคือ นายอนนท์ ไทยดี อายุ 65 ปี ผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพักรักษาตัวในโรงพยาบาลราชวิถี ได้เสียชีวิตแล้ว
นพ.อุดม เชาวรินทร์ ผู้อำนวยการ รพ.ราชวิถี กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตของนายอนนท์ จากการตรวจสอบพบว่าไม่เกี่ยวกับจากการบาดเจ็บที่ได้รับ เนื่องจากเดิมทีผู้บาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณเยื่อบุในสมอง และได้รับการเย็บแผล ได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้น ซึ่งแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่ปรากฏว่าประมาณวันที่ 9-10 ก.พ.ที่ผ่านมา กลับมีอาการแน่นหน้าอก จึงต้องทำการซีทีสแกน เอกซเรย์บริเวณปอด จนพบว่ามีอาการของโรคลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดปอด (Pulmonary Embolism) จนเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งแพทย์พยาบาลช่วยชีวิตแล้ว
นพ.สมเกียรติ เกษมธรรมคุณ นายแพทย์เชี่ยวชาญ รพ.สงฆ์ กล่าวว่า สำหรับผู้บาดเจ็บทั้งหมด 628 รายนั้น ตัวเลขของ สธ.อาจมากกว่าของตัวเลขศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร เนื่องจาก สธ.จะรวมตัวเลขบริเวณปริมณฑลด้วย อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมตัวเลขดังกล่าวพบว่า มีตัวเลขผู้บาดเจ็บที่ตกหล่น เนื่องจากอยู่ รพ.เอกชน แต่อาการไม่หนัก โดยพบว่า เป็นหญิงอายุ 19 ปี ถูกยิงบริเวณแจ้งวัฒนะ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยถูกยิงหลังด้านขวา กระสุนฝังในปอด แต่แพทย์ทำการผ่าตัด จนอาการดีขึ้น ขณะนี้สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว ส่วนรายที่ได้รับบาดเจ็บล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 11 ก.พ.เป็นชายอายุ 30 ปี ที่บาดเจ็บศีรษะ บริเวณทำเนียบรัฐบาล ได้ส่งรักษาตัวที่ รพ.รามาธิบดี เบื้องต้นพบว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปะทะจากเหตุชุมนุม แต่เกิดจากการทะเลาะกันเอง