ลูกน้อยสะอื้น...เมื่อพ่อ “ธนูศักดิ์ รัตนคช” กลายเป็นวีรชนผู้กล้า กปปส.เมืองกระบี่ (ชมคลิป)

เหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ของ ศรส.ซึ่งมี เฉลิม อยู่บำรุง คอยบัญชาการจัดชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม กปปส.นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า กรุงเทพมหานคร โดยอ้างเพื่อขอคืนพื้นที่ ซึ่งจากการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อยึดพื้นที่คืนส่งผลให้ “นายธนูศักดิ์ รัตนคช” อายุ 29 ปี หนุ่มลูกอ่อนเมืองกระบี่ สมาชิก กปปส.กระบี่ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาดกระสุนเข้าที่บริเวณหน้าอกเสียชีวิต เพื่อนสมาชิกอีกร่วม 3 คน

ศพของวีรชนผู้กล้ากลับมายังบ้านเกิด ม.4 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อทำพิธีบำเพ็ญกุศล โดยได้นำศพไปตั้งสวดอภิธรรมที่วัดเขาคราม โดยมี นายมานะ จรุงเกียรติกุล นายอำเภอเมืองกระบี่ พร้อมด้วย นายสาคร เกี่ยวข้อง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายป้อมเพชร สุคนธคณิช ประธาน กปปส.กระบี่ นายบัณฑูร ภูมิภมร นายก อบต.เขาคราม และมวลมหาประชาชน เข้าร่วมในพิธี

และสิ่งที่สร้างความปลาบปลื้มให้แก่ญาติของผู้เสียชีวิต และผู้เข้าร่วมในพิธีเป็นล้นพ้นก็คือ พวงมาลาพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่ได้พระราชทานวางหน้าหีบศพ

ธนูศักดิ์ เป็นลูกคนที่ 4 ของครอบครัวรัตนคช จากพี่น้องจำนวน 5 คน หญิง 3 คน ชาย 2 คน ของพ่อวิเวก รัตนคช อายุ 67 ปี และแม่ขิ้ม รัตนคช อายุ 60 ปี ซึ่งมีอาชีพทำสวน ได้สมรสกับ น.ส.ฉลวย หนูมี อายุ 28 ปี มีบุตรชายด้วยกัน 1 คน คือ ด.ช.ธนรัตน์ รัตนคช อายุ 2 ปี 11 เดือน

ด้วยความชื่นชอบทางการเมือง ทำให้ธนูศักดิ์ เป็นอีกคนหนึ่งที่เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองกับกลุ่ม กปปส.กระบี่ ทุกครั้งที่มีการร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาล ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ และก่อนสิ้นลมหายใจ ธนูศักดิ์ ได้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม กปปส.ที่กรุงเทพฯ 2 ครั้ง โดยครั้งหลังสุด เป็นครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการขอคืนพื้นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา

ธนูศักดิ์ ได้เข้าร่วมชุมนุมโดยเดินทางไปพร้อมกับเพื่อนๆ ไปได้ประมาณ 1 สัปดาห์ และต่อมาถูกยิงเสียชีวิตในระหว่างชุมนุม ทำให้ครอบครัว “รัตนคช” ต้องสูญเสียบุคคลซึ่งเป็นที่รัก และเสาหลักของครอบครัวไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ท่ามกลางเสียงเรียกร้องหาของบุตรชายที่ยังไร้เดียงสาด้วยวัยเพียง 2 ขวบเศษๆ ทิ้งภาระทั้งหมดไว้ให้ผู้เป็นภรรยา หลังจากนี้ก็ไม่รู้ว่าครอบครัวจะมีความเป็นอยู่อย่างไร เพราะผู้เป็นสามีคือเสาหลักของครอบครัวได้จากไปอย่างสงบ

แต่สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าจะสามารถซับน้ำตาของครอบครัว รัตนคช ได้ คือน้ำใจจากมวลมหาชน กปปส.ที่ได้หยิบยื่นให้ เพื่อค้ำจุนให้ครอบครัวรัตนคช สามารถที่จะเดินต่อไปได้อย่างมีความหวัง