ม.ราชภัฏสงขลา จัดอบรมกลยุทธ์จัดการขยะ สร้างรายได้ ปูทางสู่มหาวิทยาลัยสีเขียว

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - มรภ.สงขลา จัดอบรมกลยุทธ์จัดการขยะ หวังเพิ่มรายได้ ส่งเสริมให้มีการลด คัดแยก และใช้ประโยชน์จากขยะมูลฝอยอย่างครบวงจร มุ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อปูทางสู่มหาวิทยาลัยสีเขียว

วันนี้ (20 ก.พ.) ดร.ไพบูลย์ นวลนิล รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มรภ.สงขลา จัดโครงการอบรมกลยุทธ์การจัดการขยะภายในมหาวิทยาลัย ณ ห้องประชุมอาคารศูนย์ภาษาและคอมพิวเตอร์ มรภ.สงขลา เพื่อลดปริมาณขยะในมหาวิทยาลัยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการมีบุคลากร และนักศึกษาเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้มีบุคลากร และนักศึกษาที่พักอาศัยอยู่ภายในมหาวิทยาลัย ส่งผลให้ปริมาณขยะที่เกิดจากกิจกรรมของนักศึกษา และบุคลากรเพิ่มมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดการพัฒนารูปแบบการจัดการขยะภายในมหาวิทยาลัยให้มีความยั่งยืน ครบวงจร และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ดังนั้น จึงได้มีแนวคิดที่จะนำทฤษฎีด้าน 3Rs มาประยุกต์ใช้ ได้แก่ Reduce ลดการใช้ Reuse ใช้ช้ำ Recycle นำมาใช้ใหม่ ให้เข้ากับระบบบริหารจัดการขยะของมหาวิทยาลัย แนวคิดดังกล่าวจะส่งเสริมให้มีการลด คัดแยก และใช้ประโยชน์จากขยะมูลฝอยให้ได้มากที่สุด ก่อนการกำจัดทิ้งในขั้นสุดท้าย เช่น ลดการเกิดขยะมูลฝอย มีการคัดแยก และการนำขยะมูลฝอยมาใช้ประโยชน์ให้เพิ่มมากขึ้นในแต่ละรูปแบบ คือ การคัดแยก และนำกลับคืนขยะรีไซเคิลในมหาวิทยาลัย การใช้ประโยชน์ขยะอินทรีย์ในรูปแบบของปุ๋ยหมักก๊าซชีวภาพ และการใช้ประโยชน์ขยะด้านพลังงานของเศษวัสดุเหลือใช้อื่นๆ

ดร.ไพบูลย์ กล่าวว่า มรภ.สงขลา มีนโยบายในการรักษาสิ่งแวดล้อม จึงเห็นความสำคัญของการคัดแยกขยะ และสร้างรายได้จากขยะ เพื่อสร้างจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการสร้างรายได้จากวัสดุเหลือใช้หรือขยะ มรภ.สงขลา โดยกองนโยบายและแผน จึงจัดให้มีโครงการอบรมดังกล่าวขึ้น โดยเชิญวิทยากรที่มีความรู้ และเชี่ยวชาญ คือ นายสมศักดิ์ ทิพย์รัตน์พรทวีกรรมการบริหารฝ่ายจัดหาวัตถุดิบและบริหารโรงงาน บริษัททวีทรัพย์ (จิว แจ๊ะ เฮง) จำกัด จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นผู้ที่สร้างตัวมาจากการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ เพื่อส่งเป็นวัตถุดิบให้แก่โรงงานผลิตต่างๆ ทั่วประเทศ สร้างรายได้อย่างมหาศาล และได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ ตลอดจนการกำหนดแนวทางร่วมสร้างต้นแบบ เพื่อให้มหาวิทยาลัยเกิดระบบการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ และมีสภาพแวดล้อมที่ดี อันจะนำไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว หรือ Green University ที่ยั่งยืนต่อไป