มหาวิทยาลัยพะเยา (มพ.) เตรียมจะก้าวเป็น “มหาวิทยาลัยสีเขียว” วางนโยบาย จัดรณรงค์และจัดกิจกรรมในการลดโลกร้อนอย่างต่อเนื่องโดยเกิดจากความร่วมมือของคณาจารย์ บุคลากร และนิสิต
ดร.ปราณี อยู่ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยพะเยา กล่าวว่า นโยบายลดภาวะโลกร้อน เป็นนโยบายหลักของ ศ.พิเศษ ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี อธิการบดี ซึ่งในขณะนี้กิจกรรมเกี่ยวกับ green university ของ มพ.ได้ทำแล้วเกือบทุกคณะ ในส่วนกิจกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการรักษาสภาพแวดล้อมโดยรวม คือ ให้รักษาต้นไม้ ดอกไม้ ในส่วนของตัวตึก เช่น เรื่องของการคัดแยกขยะ การลดขยะ และในปีการศึกษาหน้าเราจะรณรงค์ไม่ใช้กล่องโฟมในมหาวิทยาลัย ลดการใช้ถุงพลาสติก โดยหันมาใช้ถุงผ้าแทน กิจกรรมการใช้ถุงผ้านั้น ได้เริ่มต้นจากกลุ่มของนิสิต ขณะนี้นับว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ขณะที่ในส่วนของรายวิชาก็จะส่งเสริมให้นิสิตทำกิจกรรม เช่น การยืมคืนถุงผ้าบริเวณหอพักนิสิต เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์เรื่องของการใช้กระบอกน้ำดื่มส่วนตัว โดยทุกหน่วยงานจะมีเครื่องกรอกน้ำอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าน้ำหมดก็สามารถกรอกน้ำดื่มเติมได้
“มพ. กำลังจะสร้างตึกสำนักงานอธิการบดีเป็นอาคารโมเดลสำหรับการลดขยะ รักษาสิ่งแวดล้อม และลดพลังงานด้วย เป็นการเสริมในส่วนกิจกรรมการลดโลกร้อนอื่นๆ ที่ทำอยู่แล้ว ได้แก่ การใช้กระดาษสองหน้า การใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยในการดูวาระการประชุม ทำให้สามารถลดการใช้กระดาษได้ในระดับหนึ่ง ทางด้านการลดพลังงานที่ใช้ เช่น เครื่องปรับอากาศ ไฟฟ้า ก็จะเปิดใช้เฉพาะเวลาทำงานเท่านั้น”
รวมถึง มพ.มีอีกหนึ่งกิจกรรมที่เรียกว่า “UP จิตอาสา รักษาสิ่งแวดล้อมในมหาวิทยาลัย” เป็นกิจกรรมต่อเนื่องในเรื่องของการปลูกต้นไม้ การคัดแยกขยะ การทำป้ายประเภทกองขยะให้ชัดเจน อีกทั้งในเรื่องของการลดหมอกควันที่มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนรอบมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะในตำบลแม่กา เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางในการลดเรื่องของหมอกควัน
นักศึกษา กำลังหลักหนุนกิจกรรม
น.ส.ธารารัตน์ มาลิกัน (ทราย) ประธานสภานิสิต สาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปะศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 เธอเข้าร่วมชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยได้ร่วมทำกิจกรรมกับชมรมอยู่ตลอดเวลา เช่น การรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนตามหมู่บ้านต่างๆ เข้าไปพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน รวมทั้งการนำป้ายรณรงค์ไปแจก สำหรับในส่วนของมหาวิทยาลัยนั้น เธอได้เข้าร่วมในกิจกรรมปลูกต้นไม้ กิจกรรมเกี่ยวกับขยะ ซึ่งนำร่องโดยคณะแพทยศาสตร์
“ตนคิดว่ากิจกรรมนี้ให้ประโยชน์ต่อคนส่วนรวม โดยที่เราจะต้องเริ่มต้นที่ตัวเราก่อน พอคนอื่นเห็นเขาก็จะปฏิบัติตามได้ เรียกว่าเป็นการปลูกจิตสำนึกอย่างหนึ่ง ทุกวันนี้สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ทันทีก็คือเรื่องใกล้ตัว เช่น การใช้กระดาษรีไซเคิลมาใช้ในการฝึกคัดภาษาจีน การคัดแยกขยะก่อนทิ้ง อยากให้เพื่อนๆ บอกต่อกันไปถึงประโยชน์ของการรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนค่ะ”
น.ส.พชรพร หลวงสุภา (อะตอม) นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนสาธิต มพ. บอกทำนองเดียวกันว่า “ตนร่วมรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนกับทางโรงเรียนก็คือ การมีกระติกน้ำและกล่องข้าวของตัวเอง โรงเรียนจะเน้นการนำวัสดุเหลือใช้มารีไซเคิล เช่น การทำกระทงจากวัสดุเหลือใช้ ส่วนตนเองจะช่วยในเรื่องใกล้ตัว อย่างการปิดไฟเมื่อไม่ได้ใช้ การใช้ถุงผ้าแทนถุงพสาสติก ตนคิดว่ากิจกรรมลดโลกร้อนนี้เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มาก ทุกคนต้องรู้และช่วยกันค่ะ”
เช่นเดียวกับ นายสิทธิศักดิ์ ใจพรม (เล็ก) นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนสาธิต มพ. เล่าว่า “งานวันลอยกระทงที่ผ่านมา ทางโรงเรียนให้จัดกระทงแบบรีไซเคิล โดยการใช้วัสดุจากธรรมชาติหรือวัสดุที่เหลือใช้ และการใช้กล่องพลาสติกแทนกล่องโฟม เช่น นำกล่องข้าวพลาสติกมาใช้แทนกล่องโฟม เมื่อใช้เสร็จแล้วก็นำไปล้างแล้วเอามาใช้ต่อ ส่วนตนเองนั้นก็ช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วยการปิดไฟเมื่อไม่ได้ใช้เหมือนกันครับ กิจกรรมนี้ ทำให้เรารู้จักการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด อยากฝากถึงเพื่อนๆ ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ถ้าเราไม่ได้ใช้แล้วก็ช่วยกันปิด เวลาจะเดินทางไปไหนที่ไม่ไกลมาก ก็เดินไปหรือปั่นจักรยานไปแทนการใช้รถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์”
Green Campus หรือ มหาวิทยาลัยสีเขียว
หมายถึง มหาวิทยาลัยที่มีการบูรณาการอนุรักษ์ด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อมเข้าไปในการเรียนการสอน การวิจัย และในทุกกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการทำงานในบรรยากาศที่มีความปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน อันก่อให้เกิดผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนของชาติ
จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวของโลกก่อนหน้านี้ ในประเทศไทยมีมหาวิทยาลัยสีเขียวอยู่ 7 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และมหาวิทยาลัยบูรพา
