ตรัง - แนะเกษตรกรให้ดูแลรักษาสวนปาล์มน้ำมันในช่วงหน้าแล้งนี้ให้ดี เพราะมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นยาวนาน และรุนแรงกว่าทุกปี ย้ำอย่าใช้สารเคมีทุกชนิด พร้อมเตือนการระบาดของหนอนปลอก
วันนี้ (18 ก.พ.) นายบุญเลี้ยง ข่ายม่าน เกษตรจังหวัดตรัง กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้เกิดขึ้นมาเร็ว รวมทั้งมีแนวโน้มจะยาวนาน และรุนแรงมากกว่าทุกๆ ปี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพืชผลของเกษตรกรชาวภาคใต้ รวมทั้งสวนปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นพืชผลที่ต้องการน้ำ หรือความชื้นอย่างมาก แต่จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และแหล่งน้ำในบริเวณแหล่งเพาะปลูกแห้งขอด ดังนั้น เกษตรกรจึงควรดูแลต้นปาล์มน้ำมันให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปาล์มน้ำมันขนาดเล็กก็อาจมีผลกระทบเนื่องจากขาดน้ำ และถูกแดดเผาจนทำให้ตายได้ ในขณะที่ปาล์มน้ำมันขนาดใหญ่ ก็อาจมีผลกระทบจนทำให้ติดผลยากขึ้น หรือมีผลผลิตลดลง
สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง จึงขอให้เกษตรกรใช้น้ำหมักชีวภาพราดลงไปบนกองทางใบปาล์มน้ำมัน เพื่อช่วยย่อยเศษซากพืช ซากสัตว์ และเพิ่มความชื้นในดิน รวมทั้งเพื่อให้รากสามารถดูดซับธาตุอาหารได้บ้างในช่วงหน้าแล้งนี้ นอกจากนั้น เกษตรกรควรรักษาความชื้นในสวนปาล์มน้ำมัน และงดการใช้สารกำจัดวัชพืช เนื่องจากในช่วงระยะนี้จะมีการเกิดโรคลดน้อยลง เนื่องจากสภาพโดยทั่วไปจะขาดความชื้น โดยเฉพาะหากจำเป็นต้องกำจัดวัชพืช ควรใช้วิธีการดายหญ้า แต่อย่าใช้สารเคมี เพราะจะทำให้บริเวณสวนปาล์มน้ำมันแห้งแล้งมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อความชื้น รวมทั้งยังเสี่ยงต่อการทำให้เกิดไฟไหม้ได้ง่ายด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหน้าแล้งนี้ก็อาจมีแมลง และศัตรูที่เข้าทำลายต้นปาล์มน้ำมันได้ด้วย เช่น หนอนปลอกเล็ก และหนอนปลอกใหญ่ ซึ่งจะเข้ากัดกินใบ จนส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต และการให้ผลผลิต ทั้งนี้ เนื่องจากอากาศที่แห้งแล้ง และมีลมพัดแรงภายในสวนปาล์มน้ำมัน อาจทำให้การระบาดของหนอนปลอกเกิดขึ้นได้เร็ว และกระจายวงกว้างมากขึ้น ดังนั้น เกษตรกรจึงต้องเร่งทำการสำรวจ และทำลายศัตรูพืชเหล่านี้ โดยในปาล์มน้ำมันขนาดเล็ก ให้ใช้วิธีการฉีดพ่นทางใบ โดยใช้สารชีวินทรีย์ เชื้อราเมตาไรเซียม และสารไล่แมลง ส่วนในปาล์มน้ำมันใหญ่ ให้ใช้วิธีการตัดแต่งทางใบ และเผาทำลายหนอนปลอก
