ชุมพร - ธนาคารออมสินชุมพร ประชาชนยังทำธุรกรรมปกติ ไร้วี่แววปิดบัญชีหวั่นล้มละลายหลังปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส.ช่วยชาวนา
จากกรณีที่ที่แกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ได้ประกาศว่า การที่ธนาคารออมสิน ได้อนุมัติวงเงินกู้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อีก 4,000 ล้านบาท หลังจากที่ได้อนุมัติเงินกู้ไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา 5,000 ล้านบาท รวมเป็น 9,000 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายเงินค่าข้าวให้แก่ชาวนา ซึ่งส่งสัญญาณสภาวะของประเทศไม่มีเงินคงคลัง และเมื่อรัฐบาลไปกู้เงินดังกล่าวจะทำให้ธนาคารเกิดสภาพคล่อง และล้มละลายนั้น
ในส่วนของ จ.ชุมพร นายสาโรจน์ กระดังงา ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาชุมพร กล่าวว่า ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้นธนาคารออมสินที่อนุมัติกู้ให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.เป็นเรื่องจริง แต่ต้องชี้แจงว่า การอนุมัติเงินกู้ระหว่างธนาคารกับธนาคาร เป็นการกู้แบบอินเตอร์แบงก์ ที่ได้ทำกันมานานกับหลายๆ ธนาคาร โดยทางธนาคารออมสิน ซึ่งก็เปรียบเป็นเจ้าหนี้ให้แก่ลูกหนี้ได้กู้ไปเพื่อทำสิ่งใด แต่ทั้งนี้ที่ผ่านมาลูกหนี้คือ ธนาคาร ธ.ก.ส.ก็ไม่เคยทำผิดเงื่อนไขสัญญา และเป็นลูกหนี้ที่ดี จ่ายเงินคืนได้ตรง หรือก่อนเวลาอีกด้วย
ส่วนการที่อนุมัติเงินกู้ 5000 ล้านบาท เป็นเงินเพียง 2% ของเงินธนาคารที่มีอยู่ ดังนั้น ขอให้ประชาชนได้เชื่อมั่นในระบบการบริหารจัดการของธนาคารออมสิน ว่า การปล่อยให้ ธ.ก.ส.กู้เงิน เพียง 2% จะทำให้สถานภาพการเงินของธนาคารจะเกิดความเสียหายถึงขนาดเสี่ยงล้มละลายไปตามข่าวลือแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่ธนาคารออมสิน สาขาชุมพร ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้า ยังมีประชาชนเดินทางธุรกรรมเบิกจ่ายเงินเข้าออกในบัญชีตามปกติ ไม่มีการเดินทางมาเพื่อปิดบัญชีแต่อย่างใด และมีบางรายก็ได้เปิดบัญชีใหม่ให้แก่ตนเอง และครอบครัวอีกด้วย แต่มีเพียงบางรายเพียงได้โทรศัพท์มาสอบถามข่าวลือดังกล่าวว่าเป็นจริงเท็จอย่างไร ซึ่งทางพนักงานของธนาคารก็ได้ชี้แจงระบบการกู้เงินระหว่างธนาคารกับธนาคารหรืออินเตอร์แบงก์ เพื่อสร้างความเข้าใจ เพื่อทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องต่อไป และตัวพนักงานเองก็ยังแต่งกายแบบธรรมดาไร้สีดำอีกด้วย
จากกรณีที่ที่แกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ได้ประกาศว่า การที่ธนาคารออมสิน ได้อนุมัติวงเงินกู้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อีก 4,000 ล้านบาท หลังจากที่ได้อนุมัติเงินกู้ไปแล้วเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา 5,000 ล้านบาท รวมเป็น 9,000 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายเงินค่าข้าวให้แก่ชาวนา ซึ่งส่งสัญญาณสภาวะของประเทศไม่มีเงินคงคลัง และเมื่อรัฐบาลไปกู้เงินดังกล่าวจะทำให้ธนาคารเกิดสภาพคล่อง และล้มละลายนั้น
ในส่วนของ จ.ชุมพร นายสาโรจน์ กระดังงา ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาชุมพร กล่าวว่า ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้นธนาคารออมสินที่อนุมัติกู้ให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.เป็นเรื่องจริง แต่ต้องชี้แจงว่า การอนุมัติเงินกู้ระหว่างธนาคารกับธนาคาร เป็นการกู้แบบอินเตอร์แบงก์ ที่ได้ทำกันมานานกับหลายๆ ธนาคาร โดยทางธนาคารออมสิน ซึ่งก็เปรียบเป็นเจ้าหนี้ให้แก่ลูกหนี้ได้กู้ไปเพื่อทำสิ่งใด แต่ทั้งนี้ที่ผ่านมาลูกหนี้คือ ธนาคาร ธ.ก.ส.ก็ไม่เคยทำผิดเงื่อนไขสัญญา และเป็นลูกหนี้ที่ดี จ่ายเงินคืนได้ตรง หรือก่อนเวลาอีกด้วย
ส่วนการที่อนุมัติเงินกู้ 5000 ล้านบาท เป็นเงินเพียง 2% ของเงินธนาคารที่มีอยู่ ดังนั้น ขอให้ประชาชนได้เชื่อมั่นในระบบการบริหารจัดการของธนาคารออมสิน ว่า การปล่อยให้ ธ.ก.ส.กู้เงิน เพียง 2% จะทำให้สถานภาพการเงินของธนาคารจะเกิดความเสียหายถึงขนาดเสี่ยงล้มละลายไปตามข่าวลือแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่ธนาคารออมสิน สาขาชุมพร ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้า ยังมีประชาชนเดินทางธุรกรรมเบิกจ่ายเงินเข้าออกในบัญชีตามปกติ ไม่มีการเดินทางมาเพื่อปิดบัญชีแต่อย่างใด และมีบางรายก็ได้เปิดบัญชีใหม่ให้แก่ตนเอง และครอบครัวอีกด้วย แต่มีเพียงบางรายเพียงได้โทรศัพท์มาสอบถามข่าวลือดังกล่าวว่าเป็นจริงเท็จอย่างไร ซึ่งทางพนักงานของธนาคารก็ได้ชี้แจงระบบการกู้เงินระหว่างธนาคารกับธนาคารหรืออินเตอร์แบงก์ เพื่อสร้างความเข้าใจ เพื่อทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องต่อไป และตัวพนักงานเองก็ยังแต่งกายแบบธรรมดาไร้สีดำอีกด้วย