สุราษฎร์ธานี - ตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี ยังคงออกค้นหาร่างชาวประมงพื้นบ้านที่สูญหายจากเหตุเรือล่มบริเวณหมู่เกาะอ่างทองเป็นวันที่ 2 แต่การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก ท่ามกลางคลื่นสูงเกือบ 3 เมตร
วันนี้ (16 ก.พ.) พ.ต.ท.ฟุ้ง ชัยนนท์นอก สารวัตรตำรวจน้ำกองกำกับการ 6 สุราษฎร์ธานี ได้นำเรือตรวจการณ์ 517 พร้อมด้วยทีมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธา ออกติดตามค้นหานายประสพ ยี่หมาด อายุ 29 ปี ชาวประมงพื้นบ้านซึ่งสูญหายจากเหตุคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ซัดเรือล่ม ขณะนำเรือออกไปวางอวนกุ้งที่บริเวณหมู่เกาะอ่างทอง ระหว่างช่องลม เกาะวัวตาหลับ-เกาะพะลวย ซึ่งเหตุการณ์เกิดเมื่อวานนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พยายามค้นหาทั้งเรือ และคนที่หายไป โดยใช้เรือวนรอบๆ เป็นบริเวณกว้างหลายตารางกิโลเมตร ท่ามกลางคลื่นที่สูงกว่า 2 เมตร เรือเล็กไม่สามารถออกช่วยค้นหาได้ แต่การค้นหาก็ไม่พบสิ่งใด ซึ่งการค้นหาเป็นด้วยความยากลำบาก ท่ามกลางคลื่นลมที่มีความสูงเกือบ 3 เมตร
น.ส.มานิตา แซภู่ อายุ 27 ปี และนายจตุพล รักสกุล อายุ 16 ปี หลานชาย ผู้รอดชีวิตได้กล่าวว่า นายประสพ ซึ่งเป็นสามีได้นำเรือออกไปวางอวนกุ้งที่บริเวณหมู่เกาะอ่างทองระหว่างช่องลม เกาะวัวตาหลับ-เกาะพะลวย โดยออกวางอวนตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 14 ก.พ จนกระทั่งถึงเวลา 04.00 น. วันที่ 15 ก.พ.จึงเริ่มเก็บอวนพบว่า ได้กุ้งเป็นจำนวนมากกว่าร้อยกิโลกรัม และปลาอีกราวๆ 50 กิโลกรัม เนื่องจากเป็นวันคลื่นลมแรง ทำให้กุ้งออกหากินจนสามารถจับกุ้งได้อย่างที่ไม่เคยจับได้มาก่อน
หลังจากเก็บกู้อวนเสร็จประมาณ 05.00 น. จึงได้เดินทางกลับ ระหว่าทางเจอคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ซัดเข้าใส่เรือจนเป็นเหตุให้เรือซึ่งบรรทุกกุ้ง ปลามาจนเพียบจมลงทันที ทั้งหมดได้คว้าทุ่นวางอวนได้ 2 อัน จึงประคองลอยตัวอยู่ได้ราวครึ่งชั่งโมง ต่อมา นายประสพ ได้ร้องบอกภรรยาว่าตนไม่ไหวแล้วกำลังหมดแรง เนื่องจากเหนื่อยล้าจากการเก็บกู้อวน ไม่สามารถลอยคอต่อไปได้เมื่อถูกคลื่นตีจึงได้หลุดจากทุ่นจมหายไปต่อหน้าต่อตา
วันนี้ (16 ก.พ.) พ.ต.ท.ฟุ้ง ชัยนนท์นอก สารวัตรตำรวจน้ำกองกำกับการ 6 สุราษฎร์ธานี ได้นำเรือตรวจการณ์ 517 พร้อมด้วยทีมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธา ออกติดตามค้นหานายประสพ ยี่หมาด อายุ 29 ปี ชาวประมงพื้นบ้านซึ่งสูญหายจากเหตุคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ซัดเรือล่ม ขณะนำเรือออกไปวางอวนกุ้งที่บริเวณหมู่เกาะอ่างทอง ระหว่างช่องลม เกาะวัวตาหลับ-เกาะพะลวย ซึ่งเหตุการณ์เกิดเมื่อวานนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พยายามค้นหาทั้งเรือ และคนที่หายไป โดยใช้เรือวนรอบๆ เป็นบริเวณกว้างหลายตารางกิโลเมตร ท่ามกลางคลื่นที่สูงกว่า 2 เมตร เรือเล็กไม่สามารถออกช่วยค้นหาได้ แต่การค้นหาก็ไม่พบสิ่งใด ซึ่งการค้นหาเป็นด้วยความยากลำบาก ท่ามกลางคลื่นลมที่มีความสูงเกือบ 3 เมตร
น.ส.มานิตา แซภู่ อายุ 27 ปี และนายจตุพล รักสกุล อายุ 16 ปี หลานชาย ผู้รอดชีวิตได้กล่าวว่า นายประสพ ซึ่งเป็นสามีได้นำเรือออกไปวางอวนกุ้งที่บริเวณหมู่เกาะอ่างทองระหว่างช่องลม เกาะวัวตาหลับ-เกาะพะลวย โดยออกวางอวนตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 14 ก.พ จนกระทั่งถึงเวลา 04.00 น. วันที่ 15 ก.พ.จึงเริ่มเก็บอวนพบว่า ได้กุ้งเป็นจำนวนมากกว่าร้อยกิโลกรัม และปลาอีกราวๆ 50 กิโลกรัม เนื่องจากเป็นวันคลื่นลมแรง ทำให้กุ้งออกหากินจนสามารถจับกุ้งได้อย่างที่ไม่เคยจับได้มาก่อน
หลังจากเก็บกู้อวนเสร็จประมาณ 05.00 น. จึงได้เดินทางกลับ ระหว่าทางเจอคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ซัดเข้าใส่เรือจนเป็นเหตุให้เรือซึ่งบรรทุกกุ้ง ปลามาจนเพียบจมลงทันที ทั้งหมดได้คว้าทุ่นวางอวนได้ 2 อัน จึงประคองลอยตัวอยู่ได้ราวครึ่งชั่งโมง ต่อมา นายประสพ ได้ร้องบอกภรรยาว่าตนไม่ไหวแล้วกำลังหมดแรง เนื่องจากเหนื่อยล้าจากการเก็บกู้อวน ไม่สามารถลอยคอต่อไปได้เมื่อถูกคลื่นตีจึงได้หลุดจากทุ่นจมหายไปต่อหน้าต่อตา