พัทลุง - กลุ่ม กปปส.พัทลุงกร้าวสั่งปิดศาลากลาง และหน่วยงานรัฐตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. นี้ โดยไม่กำหนดเปิด เหตุสถานการณ์ในกรุงเทพฯ ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งใช้ระเบิดอาวุธสงครามเข้าทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งจัดชุมนุมใหญ่บริเวณหน้าศาลากลางในตอนกลางคืนวันที่ 14 ก.พ.นี้
วันนี้ (13 ก.พ.) นายทวี ภูมิสิงหราช อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองพัทลุง แกนนำคนสำคัญของกลุ่ม กปปส.พัทลุง กล่าวว่า หลังจากที่กลุ่ม กปปส.พัทลุง เปิดให้ข้าราชการ พนักงานของรัฐเข้าทำงานในศาลากลางจังหวัดพัทลุง และหน่วยงานรัฐต่างๆ รวมทั้งหน่วยงานรัฐวิสาหกิจยกเว้น สนง.สรรพพากร และ สนง.สรรพสามิต ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.57 ตามคำเรียกร้องของนายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง แต่สถานการณ์ในกรุงเทพฯ ได้ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระเบิดอาวุธสงคราม เข้าทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้รัฐบาลรักษาการณ์ยังใช้อำนาจมืดรังแกข้าราชการที่เข้าชุมนุมประท้วงกับกลุ่ม กปปส.อย่างไร้มนุษยธรรม รวมทั้งการใช้อำนาจเถื่อนขู่เข็ญ เอาผิดกับบุคคล กลุ่มบุคคลที่ให้การสนับสนุนกลุ่ม กปปส. อย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น กลุ่ม กปปส.พัทลุง จึงมีมาตรการตอบโตรัฐบาลรักษาการที่ไม่ชอบธรรมด้วยการปิดศาลากลางจังหวัดพัทลุง หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ ทั่วทั้งจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. 57 เป็นต้นไปโดยไม่มีวันกำหนดเปิด ยกเว้นสถานศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาลตำบล โรงพยาบาล สำนักงานศาลจังหวัด สำนักงานอัยการ สถานีตำรวจ โดยทางกลุ่ม กปปส.จะส่งคนออกไปปิดประตูสำนักงานทุกแห่ง หากยังดื้อและขัดขืนก็จะมีตัดไฟ ประปาทันที
นายทวี ฯ กล่าวอีกว่า สำหรับในวันที่ 14 ก.พ. 57 นั้น ทางกลุ่ม กปปส.พัทลุงจะจัดชุมนุมใหญ่ ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง และในตอนกลางคืนวันที่ 14 ก.พ. 57 จะมีหนังตะลุง มโนราห์แสดงให้ชมตลอดคืน คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมไม่น้อยกว่า 8,000 คน นอกจากนี้ในคืนดังกล่าวจะมีเครือข่ายชาวสวนยางพารา จ.พัทลุงทุกพื้นที่เข้าร่วมชุมนุมด้วย เนื่องจากในขณะนี้ยางพาราสดลดลงเหลือแค่กิโลกรัมละ 56 บาท ส่วนยางแผ่นลมควันเหลือแค่กิโลกรัมละ 64.75 บาท ราคายางแผ่นดิบราคากิโลกรัมละ 63.01 บาทเท่านั้น ซึ่งเกษตรกรประสบปัญหาการขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เงินชดเชยปัจจัยการผลิตไร่ละ 2,520 บาท แต่ไม่เกิน 25 ไร่/คนนั้น ขณะนี้เกษตรกรชาวสวนยางพารายังไม่ได้รับเงินดังกล่าวอีกมากมาย กลุ่มเกษตรกรฯ จึงต้องมาร่วมกับกลุ่ม กปปส.พัทลุง เพื่อขับไล่รัฐบาลออกไปดังกล่าว
วันนี้ (13 ก.พ.) นายทวี ภูมิสิงหราช อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองพัทลุง แกนนำคนสำคัญของกลุ่ม กปปส.พัทลุง กล่าวว่า หลังจากที่กลุ่ม กปปส.พัทลุง เปิดให้ข้าราชการ พนักงานของรัฐเข้าทำงานในศาลากลางจังหวัดพัทลุง และหน่วยงานรัฐต่างๆ รวมทั้งหน่วยงานรัฐวิสาหกิจยกเว้น สนง.สรรพพากร และ สนง.สรรพสามิต ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.57 ตามคำเรียกร้องของนายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง แต่สถานการณ์ในกรุงเทพฯ ได้ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระเบิดอาวุธสงคราม เข้าทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้รัฐบาลรักษาการณ์ยังใช้อำนาจมืดรังแกข้าราชการที่เข้าชุมนุมประท้วงกับกลุ่ม กปปส.อย่างไร้มนุษยธรรม รวมทั้งการใช้อำนาจเถื่อนขู่เข็ญ เอาผิดกับบุคคล กลุ่มบุคคลที่ให้การสนับสนุนกลุ่ม กปปส. อย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น กลุ่ม กปปส.พัทลุง จึงมีมาตรการตอบโตรัฐบาลรักษาการที่ไม่ชอบธรรมด้วยการปิดศาลากลางจังหวัดพัทลุง หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ ทั่วทั้งจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. 57 เป็นต้นไปโดยไม่มีวันกำหนดเปิด ยกเว้นสถานศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาลตำบล โรงพยาบาล สำนักงานศาลจังหวัด สำนักงานอัยการ สถานีตำรวจ โดยทางกลุ่ม กปปส.จะส่งคนออกไปปิดประตูสำนักงานทุกแห่ง หากยังดื้อและขัดขืนก็จะมีตัดไฟ ประปาทันที
นายทวี ฯ กล่าวอีกว่า สำหรับในวันที่ 14 ก.พ. 57 นั้น ทางกลุ่ม กปปส.พัทลุงจะจัดชุมนุมใหญ่ ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง และในตอนกลางคืนวันที่ 14 ก.พ. 57 จะมีหนังตะลุง มโนราห์แสดงให้ชมตลอดคืน คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมไม่น้อยกว่า 8,000 คน นอกจากนี้ในคืนดังกล่าวจะมีเครือข่ายชาวสวนยางพารา จ.พัทลุงทุกพื้นที่เข้าร่วมชุมนุมด้วย เนื่องจากในขณะนี้ยางพาราสดลดลงเหลือแค่กิโลกรัมละ 56 บาท ส่วนยางแผ่นลมควันเหลือแค่กิโลกรัมละ 64.75 บาท ราคายางแผ่นดิบราคากิโลกรัมละ 63.01 บาทเท่านั้น ซึ่งเกษตรกรประสบปัญหาการขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เงินชดเชยปัจจัยการผลิตไร่ละ 2,520 บาท แต่ไม่เกิน 25 ไร่/คนนั้น ขณะนี้เกษตรกรชาวสวนยางพารายังไม่ได้รับเงินดังกล่าวอีกมากมาย กลุ่มเกษตรกรฯ จึงต้องมาร่วมกับกลุ่ม กปปส.พัทลุง เพื่อขับไล่รัฐบาลออกไปดังกล่าว