ยะลา - สภาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชุมร่วม ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร แก้ไขปัญหาความไม่สงบ หลังเกิดเหตุรุนแรงต่อเนื่องจากกรณียิงเด็ก 3 ศพ ที่ อ.บาเจาะ นราธิวาส ในขณะที่ ประธานเสริมสร้างสันติสุข เผยจัดตั้งคณะทำงานตรวจสอบเหตุการณ์
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จ.ยะลา นายอาซิส เบ็ญหาวัน ประธานที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เชิญคณะกรรมการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าประชุมร่วมกับ นายเลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองเลขา ศอ.บต. พลตรีปราการ ชลยุทธ รองแม่ทัพภาค 4 พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี รองผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีหัวข้อหลักในการประชุมคือ กรณีเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ หลังจากเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงเด็ก เสียชีวิต 3 ราย ในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงปฏิบัติการต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ หลายเหตุการณ์
โดยในที่ประชุม ทางคณะกรรมการเสริมสร้างสันตอสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้สอบถามถึงความคืบหน้าในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น กับฝ่ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พร้อมนำข้อมูลต่างๆ มาพิจารณา เพื่อที่จะร่วมกันหาแนวทางทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น
นายอาซิส เบ็นหาวัน ประธานที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า จากถึงกรณีเหตุการณ์ที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ที่กลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายเจ๊ะมุ มะมัน พร้อมภรรยาและบุตร เป็นเหตุให้บุตร เสียชีวิตไป 3 คน อยากจะนำเรียนแก่พี่น้องประชาชนทั้งหลายมาให้ทราบกันว่าอย่าพึ่งไปฟันธงว่า บุคคลหรือกลุ่มองค์กรกลุ่มหนึ่งกลุ่มเป็นผู้ก่อเหตุความไม่สงบ เพราะในขณะนี้ยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งทางสภาที่ปรึกษาเอง ก็ได้ตั้งคณะทำงานชุดหนึ่งมาจากภาคประชาชน
เพื่อสืบสวนหามูล ที่จะหาความจริงมาเรียนชี้แจงให้ทุกฝ่ายได้รับทราบว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง และใครคือผู้ดำเนินงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุด ก็เกิดเหตุการณ์ที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ที่ทำให้มีพระมรณภาพ รวมทั้งชาวบ้านและเด็กเสียชีวิต ซึ่งในห้องประชุมสภาที่ปรึกษาก็ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้เพื่อที่จะหาข้อมูลเบื้องต้นแล้วก็จะมีคณะกรรมการชุดพิเศษ
โดยสภาที่ปรึกษาร่วมกับ ศอ.บต. ได้แต่งตั้งขึ้นลงไปหาข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อที่จะหาผู้กระทำผิดว่าเป็นฝ่ายใด เพราะฉะนั้นก็อยากฝากพี่น้องประชาชนว่าอย่าพึ่งใจร้อนจะพยายามหาข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ และก็จะสรุปสถานการณ์และเรียนชี้แจงให้กับทุกฝ่ายได้รับทราบเป็นระยะๆ ว่ามีการคืบหน้าไปอย่างไรขณะนี้ก็คืบหน้าไปแล้วอย่างหนึ่งเพราะว่าได้หลักฐานที่ปรากฏในที่เกิดเหตุว่า อาวุธปีนชนิดได ได้มากี่กระบอก และได้อย่างอื่นอีกไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทาง ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ กำลังเร่งทำการสืบสวนสอบสวนอยู่ว่าข้อมูลได้มาอย่างไร และส่วนที่ไปหาข้อมูลและข้อเท็จได้มาอย่างไร ก็จะได้มานั่งคุยกันว่าใครกันแน่ที่เป็นว่าก่อเหตุการณ์
“เราก็พยายามงดเงื่อนไข ประการแรกก็เมื่อกลางปีที่แล้วเราก็ได้มีการตกลงกับผู้เห็นต่างในการพูดคุยเรื่องสันติภาพที่สุดก็นำไปสู่การเจรจายุติสงครามการฆ่ากัน โดยการวางอาวุธก็ดีอะไรก็ดีก็มันทีปัจจัยรายละเอียดที่ต้องตกลงกันทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้มันนำไปสู่สันติภาพอย่างแท้จริงสภาเองก็ได้ไปศึกษาดูงานเรื่อง สถานการณ์ความไม่สงบและการเจรจาเรื่องสันติภาพมาหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นที่ ฟิลิปปินส์ ล่าสุดก็ไปอังกฤษ เราก็พยายามรวบรวมข้องมูลเพื่อนำเสนอสายความมั่นคงเพื่อเป็นแนวทางในการนำไปสู่การพูดคุยหรือเจรจาเรื่องสันติภาพ สิ่งหนึ่งที่เราได้กำชับตลอดเวลาเราได้นำเสนอต่อฝ่ายความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็น ตำรวจ ทหาร หรือฝ่ายปกครองทุกฝ่ายจะต้องทำงานอย่างจริงจริงในการลาดตระเวน หรือปกครองดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน หรือผู้ไม่เกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายที่อ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยพุทธ หรือมุสลิม หรือจะเป็นผู้นำศาสนา ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐเอง เจ้าหน้าที่จะต้องเร่งการคุ้มครองความปลอดภัยให้มากสุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอประณาม ใครก็ตามหรือองค์กรใดก็ตามที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ หรือนำไปสู่ความแตกแยก กระทำการโหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม ละเมิดสิทธิความเป็นมนุษย์ความเป็นคนที่พระเจ้าได้สร้างมาให้ก็ขอประณามไว้ในโอกาสนี้ด้วย” นายอาซิส กล่าว