ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สปต.ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณี ยิงเด็ก 3 ศพที่บาเจาะ จ.นราธิวาส พร้อมให้ กอ.รมน.คุ้มครองชาวไทยพุทธหลัง “แนวร่วม” แก้แค้นฆ่าแล้วเผาว่าที่ ร.ต.เบญจพร เกื้อทุ่ง ภรรยาตำรวจ สภ.ราตาปันยัง
วันนี้ (11 ก.พ.) ที่ห้องประชุม สำนักประสานนโยบายการศึกษา ชั้น 2 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต. ได้มีการประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงคนในครอบครัวนายเจ๊ะมุ มะมัน ที่ ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ทำให้ ด.ช.มูยาเฮด มะมัน ด.ช.บาฮารี มะมัน ด.ช.อีลยาส มะมัน เสียชีวิต นางพาดีละห์ และนายเจ๊ะมุ ผู้เป็น แม่และพ่อได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุประชาชนในพื้นที่เข้าใจว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ และมีการเคลื่อนไหวของประชาชนในพื้นที่เรียกร้องให้มีการสืบสวนข้อเท็จจริง และหาตัวคนร้ายมาลงโทษ และหลังจากนั้นได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง ว่าที่ ร.ต.เบญจพร เกื้อทุ่ง ภรรยาของ ตำรวจ สภ.ราตาปันยัง จ.ปัตตานี และจุดไฟเผากลางตลาดนัด พร้อมทั้งทิ้งใบปลิวว่าเป็นการแก้แค้นจากการที่มีการฆ่าเด็ก 3 ศพที่เกิดขึ้น
สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) มีความเห็นว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกำลังบานปลาย และก่อให้เกิดเหตุความรุนแรง และความขัดแย้งที่อาจจะนำมาซึ่งความสูญเสีย ความหวาดระแวงของคนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่รัฐ จึงได้มีการการตั้งคณะทำงานเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงมาเปิดเผยแก่สังคม และนำคนร้ายมาลงโทษ รวมทั้งให้มีการคุ้มครองความปลอดภัยของชาวไทยพุทธที่ตกเป็นเป้าหมายการแก้แค้น โดยมีนายวิสุทธิ์ สิงห์ขจรวรกุล เป็นประธานคณะทำงาน นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล เป็นรองประธาน พร้อมบุคคลจากทุกภาคส่วน เช่น ตัวแทนกรรมการอิสลาม ตัวแทนครูสอนศาสนา โดยมี ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม และ ผอ.สำนักยุติธรรม ศอ.บต. เป็นฝ่ายเลขานุการ
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล ประธานคณะกรรมการการสื่อสารและการมีส่วนร่วม สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นรองประธานคณะทำงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ตั้งประเด็นการพยายามฆ่าล้างครัวที่เกิดขึ้น มาจาก 3 ประเด็นคือ เรื่องการฆ่าล้างแค้น หนึ่ง เนื่องจากนายเจะมุ มะมัน ซึ่งเป็นผู้ที่มีหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องสงสัยว่าเป็นแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของบุคคลต่างๆ หลายคดีด้วยกัน สอง เป็นการลงมือเพื่อสร้างสถานการณ์จาก “แนวร่วม” หลังจากที่ นายเจะมุ ได้เข้ารายงานตัวต่อ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปพบนายเจะมุ บ่อยครั้ง และสาม เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วย หรือแนวร่วมบางกลุ่มในพื้นที่ ซึ่งเป็นการรับจ้างเพื่อปฏิบัติการครั้งนี้ เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งคณะทำงานได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง และนำความจริงมาเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา หากเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการจับกุม และให้ กอ.รมน.ดำเนินการตรวจสอบว่าคดีดังกล่าว มีส่วนเกี่ยวข้องกับกำลังพลของ กอ.รมน.หรือไม่ รวมทั้งให้มีการป้องกัน รักษาความปลอดภัยให้แก่ชาวไทยพุทธ ที่ตกเป็นเป้าหมายของการแก้แค้นจาก แนวร่วม และให้ ศอ.บต. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ประชาชนให้ความเชื่อถือ สื่อสารข้อเท็จจริงต่อประชาชนเป็นระยะๆ ถึงความคืบหน้าของคดีที่เกิดขึ้น
ในขณะที่ตัวแทนของ กอ.รมน.เปิดเผยว่า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมที่จะให้ความคุ้มครองนายเจ๊ะมุ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งเสนอให้มีการไต่สวนสาธารณะเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า ไม่ได้เป็นผู้มีส่วนกับการฆ่าเด็กๆ ที่เกิดขึ้น ในขณะที่ พล.ต.ต.พัฒนาวุธ อังคนาวิน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้กล่าวว่า พนักงานสอบสวนขอเวลา 30 วัน ในการคลี่คลายคดี เพื่อให้คำตอบแก่ประชาชนถึงสาเหตุการฆ่าคนในครอบครัวของนายเจะมุ และกลุ่มคนร้าย
นายไชยยงค์ กล่าวว่า สำหรับคณะทำงานชุดนี้ของ สปต. จะเร่งติดตามความคืบหน้าของคดีจากเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งลงพื้นที่เพื่อหาข้อเท็จจริง และนำความจริงมาเปิดเผยให้ประชาชนได้รับรู้ เพื่อที่จะเป็นช่องทางให้ประชาชนมีความรู้สึกที่ดีว่าหลังเกิดเหตุ ทุกหน่วยงาน พยายามที่จะทำความจริงให้ปรากฏ และนำคนร้ายมาสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย