ยะลา - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ยืนยันกรณียิงเด็ก 3 ศพที่ อ.บาเจาะ นราธิวาส ไม่ใช่ฝีมือ จนท. หลังมีหลายองค์กรสื่อในโลกออนไลน์พยายามบิดเบือนข้อมูล พร้อมเร่ง จนท.หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
วันนี้ (5 ก.พ.) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงชาวบ้าน ในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีเด็กเสียชีวิต 3 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมาว่า คดีนี้ค่อนข้างสะเทือนขวัญ มีการพยายามปล่อยข่าวโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เผยแพร่ในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง การเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว เหมือนว่าได้มีการเตรียมการไว้ก่อน เพราะว่าสามารถออกได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ท่านแม่ทัพภาค 4 ได้สังการในที่ประชุมในหน่วย ให้หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน เร่งติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งในขณะนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ท่านผู้บังคับการตำรวจ ได้เข้าไปทำการเก็บรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน พยานวัตถุ พยานแวดล้อมแล้ว
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ คนร้ายพยายามแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นชายชุดดำ ซึ่งเป็นการที่เขาพยายามทำมาโดยตลอด สิ่งที่ท่านแม่ทัพภาค 4 เป็นกังวลคือ ต้องพยายามหาความจริงให้ปรากฏให้เร็วที่สุด ซึ่งตอนนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนอยู่แล้ว ล่าสุด วานนี้ทางหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่โดยตรง ท่านนายอำเภอบาเจาะ ท่านรองผู้ว่าฯ ท่านผู้บังคับการตำรวจ ก็ได้เข้าไปในพื้นที่ ในส่วนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ก็ได้มีการส่งทีมจากสำนักกฎหมายเข้าไปสร้างความเข้าใจ สำหรับความรู้สึกทางญาติของผู้สูญเสียก็ยังรู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ก็จะพยายามสร้างความเข้าใจกับเครือญาติพี่น้องประชาชนได้รับทราบว่า เหตูการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันเกิดขึ้นมาจากสาเหตุอะไร” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังกว่าอีกว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ มีกลุ่มเครือข่าย กลุ่มองค์กรที่เป็นส่วนแนวร่วมที่พยายามบิดเบือน และใช้วิธีการโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งในเรื่องนี้ตนเองเชื่อว่าความจริงจะต้องปรากฏในอนาคต ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบก็ต้องได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง