ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้นำศาสนาอิสลามใน จ.สงขลา ทำพิธีฝังหมู่ 5 ศพ ชายมุสลิมชาวโรฮิงญาหลังจากที่เสียชีวิตจากอาการป่วย และบอบช้ำจากการถูกกักขังอยู่ในป่าชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อรอส่งต่อไปยังประเทศที่สาม พบยังมีอีกหลายคนที่กำลังป่วยและอาการน่าเป็นห่วง
เวลาประมาณ 18.00 น. วันนี้ (11 ก.พ.) ผู้นำศาสนาอิสลามใน จ.สงขลา ประกอบด้วย นายอิสมาแอล หมัดอาด้ำ ประธานเครือข่ายช่วยเหลือโรฮิงญาแห่งประเทศไทย และกรรมการช่วยเหลือโรฮิงญา สำนักจุฬาราชมนตรี นายศักดิ์กรียา บินแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา และตัวแทนสมาคมโรฮิงญาแห่งประเทศไทย ได้ประกอบพิธีฝังหมู่พร้อมๆ กัน 5 ศพ มุสลิมชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมดตามหลักศาสนาอิสลาม ที่กุโบร์ หรือสุสานมุสลิม มัสยิดฮาลีมาตุสสะดียะฮ์ หมู่ที่ 1 บ้านโคกขี้เหล็ก ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีชาวบ้าน และผู้นำศาสนาในพื้นที่ช่วยกันอาบน้ำศพ ทำพิธีละหมาด และขอพรให้กับชาวโรฮิงญาทั้ง 5 คน และการฝังหมู่ทั้ง 5 ศพ ต้องใช้รถตักดินในการขุด และถม เนื่องจากหลุมลึก และกว้างไม่สามารถใช้แรงงานคนขุดได้ทัน
นายอิสมาแอล หมัดอาด้ำ ประธานเครือข่ายช่วยเหลือโรฮิงญาแห่งประเทศไทย และกรรมการช่วยเหลือโรฮิงญา สำนักจุฬาราชมนตรี เปิดเผยว่า ชาวโรฮิงญาทั้ง 5 คน อายุระหว่าง 16-40 ปี เสียชีวิตขณะถูกส่งไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ โดยเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1 คน วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 1 คน วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 1 คน และวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2 คน มีทั้งที่ป่วยเป็นโรคประจำตัว และร่างกายบอบช้ำระหว่างการเดินทาง และถูกนำมากักขังไว้ในป่าตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อรอส่งต่อไปยังประเทศที่สาม
นายอิสมาแอล ระบุว่า ชาวโรฮิงญาทั้ง 5 คน อยู่ในกลุ่มที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้ล่าสุดกว่า500 คน เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะถูกกักขังอยู่ในป่าพื้นที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ชายแดนไทย-มาเลเซีย และเชื่อว่าเป็นชาวโรฮิงญากลุ่มเดิมที่เจ้าหน้าที่ได้เคยช่วยเหลือเมื่อปีก่อน และเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ก่อนที่จะถูกผลักดันกลับภูมิลำเนา และถูกกลุ่มนายหน้าและขบวนการค้ามนุษย์รับตัวกลับเข้ามาเพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สามอีกครั้ง โดยขณะนี้ยังมีชาวโรฮิงญาอีกบางส่วนที่ป่วย ซึ่งยังถูกกักตัวอยู่ที่ด่านตรวจคนเข้าสะเดา และมีอาการน่าเป็นห่วง