xs
xsm
sm
md
lg

คกก.อิสลาม จ.ตรัง แจงกรณี กปปส.ปิดล้อมมัสยิดสุโส๊ะ เป็นการเข้าใจผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - คณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ตรัง ออกแถลงการณ์กรณี กปปส.ตรังปิดล้มมัสยิดสุโส๊ะเป็นเรื่องเข้าใจผิด วอนอย่านำไปสู่เงื่อนไขทำให้สังคมแตกแยก และผูกโยงศาสนากับเรื่องการเมือง รวมทั้งมีการขยายความเกินจริง

วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น ที่ห้องประชาสัมพันธ์ ศาลากลาง จ.ตรัง นายสุอีน สูบเด็น พร้อมด้วย นายหลีม ไมสู นายอำนวย สุหรน และนายศักดิ์กริยา สองสา ในฐานะคณะกรรมการอิสลาม จ.ตรัง ได้รับมอบหมายจาก นายหนอด ตู้ดำ ประธานกรรมการอิสลามประจำ จ.ตรัง ให้แถลงถึงข้อเท็จจริงจากกรณีที่เกิดปัญหาที่มัสยิดสุโส๊ะ ต.สุโส๊ะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา

โดยได้มีการทำเป็นหนังสือแถลงการณ์ ฉบับที่ 1/2557 ความว่า “ตามที่ได้มีการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่มัสยิดสุโส๊ะ ตำบลสุโส๊ะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 300 คน ได้เข้าไปปิดล้อมมัสยิด ซึ่งมีผู้กำลังปฏิบัติศาสนกิจ จนเกิดเป็นข่าวแพร่กระจาย ทำให้มีผู้ออกมาแสดงความคิดเห็นในแง่มุมที่ต่างกันออกไปอยู่ในขณะนี้ ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เห็นว่าเป็นการสื่อสารที่ขาดรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่สังคมทั่วไปไม่ได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงอีกหลายประการ และหากปล่อยไปก็จะเกิดความเสียหาย และเกิดภาพลบให้แก่ผู้ที่ได้รับทราบ ทั้งที่ผ่านมา และที่อาจจะมีต่อไป

ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการอิสลาม จ.ตรัง จึงขอชี้แจงทำความเข้าใจว่า ในวันเกิดเหตุกลุ่มผู้ชุมนุมมีเป้าหมายจะเข้าไปที่โรงเรียน แต่เนื่องจากโรงเรียนกับมัสยิดตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ใช้รั้วเดียวกัน และใช้ประตูร่วมกัน การเข้าไปถึงโรงเรียนนั้นจะต้องผ่านอาคารมัสยิดก่อน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 30 เมตร จึงทำให้มีการเข้าใจผิดของผู้รับสารที่ส่งต่อกันในวงกว้างว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะเข้าไปปิดล้อมมัสยิด ทั้งที่แท้จริงแล้วกลุ่มผู้ชุมนุมมีเป้าหมายจะไปที่โรงเรียน โดยไม่ได้มุ่งไปที่มัสยิดแต่ประการใด

จึงขอเรียกร้องว่าอย่าได้เอากรณีเหตุการณที่มัสยิดสุโสะ ไปสร้างเงื่อนไข และสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคม และอย่าได้เอาไปขยายเพื่อให้เกิดการเข้าใจผิดระหว่างพี่น้อง ที่อาจมีผลประโยชน์บางประการของบางกลุ่ม บางพวก โดยเฉพาะการใช้เป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ในทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม เนื่องจากการกระทำดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะการสร้างความแตกแยกนั้น เป็นสิ่งต้องห้ามในหลักการของศาสนาอิสลาม แต่ถึงอย่างไรก็ขอให้ผู้ชุมนุมไม่ว่ากลุ่มใด ได้มีความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงศาสนสถานมัสยิด แม้ว่าไม่ตั้งใจจะกระทำการใดๆ ทั้งนี้ เป็นการป้องกันไม่ให้มีผู้เจตนานำไปขยายผล เพื่อให้มีความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้เหมือนอย่างกรณีมัสยิดสุโส๊ะ”

นายสุอีน กล่าวอีกว่า ตนอยากวิงวอนผ่านสื่อมวลชนให้นำเสนอข้อมูลที่ครบถ้วน เพราะข่าวที่ออกไปกลายเป็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดมัสยิด ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมมีเป้าหมายไปปิดที่โรงเรียน และไม่ได้มีการขัดขวางการปฏิบัติกิจทางศาสนาแต่อย่างใด ข่าวที่แพร่กระจายออกไป ได้สร้างความสับสนให้แก่ผู้รับสาร จึงอยากจะเน้นย้ำในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน และไม่อยากให้มัสยิดตกเป็นเครื่องมือของบุคคลใด

ส่วนกรณีที่มีเอกสารออกมาโดยอ้างว่า เป็นแถลงการณ์จากสำนักจุฬาราชมนตรี ที่ได้ออกมาประณามการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมในครั้งนี้ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากว่า เป็นแถลงการณ์ฉบับจริงหรือไม่นั้น นายสุอีน กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเอกสารดังกล่าวมีข้อสังเกตว่า ยังมีบางจุดที่ยังบกพร่องในเรื่องของข้อเท็จจริง ซึ่งรายละเอียดยังไม่ครบถ้วน จึงต้องทำการตรวจสอบกันต่อไป พร้อมทั้งมองว่า ขณะนี้ทางสำนักจุฬาราชมนตรี ยังรับข้อมูลอย่างไม่ครบถ้วน โดยทางคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ตรัง จะต้องทำหนังสือชี้แจงไปยังท่านจุฬาราชมนตรี และทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั้ง 39 จังหวัด เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

นายสุอีน กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เกิดขึ้นเพราะเรื่องทางการเมือง ซึ่งทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ไม่สามารถไปตอบโต้ต่อกลุ่มคนเหล่านั้นได้ แต่ก็อยากฝากไปยังทุกฝ่ายว่า หากเรื่องใดที่ยังมีความไม่เข้าใจ หรือเข้าใจไม่ตรงกัน ก็อย่าสร้างให้เป็นประเด็น หรืออย่านำมัสยิดไปสร้างเงื่อนไข หรือสร้างความแตกแยกในสังคม
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น