ตรัง - คณะกรรมการอิสลาม จ.ตรัง ส่งหนังสือถึงจุฬาราชมนตรี ให้เตือนมุสลิมะฮ์ที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม หลังพบเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองสิงหนครบางคนร้องเพลงเต้นรำ และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
วันนี้ (23 ธ.ค.) นายสมาน ลิประพันธ์ รองคณะกรรมการอิสลาม จ.ตรัง (กอจ.ตรัง) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ พร้อมด้วย นายทวี ปรังพันธ์ กอจ.ตรัง ระบุถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองสิงหนคร อ.สทิงพระ จ.สงขลา ได้เดินทางมาดูงาน และจัดงานเลี้ยงที่บริเวณหน้าโรงแรมตรัง
ซึ่งเป็นการจัดงานรื่นเริง มีการร้องเพลงเต้นรำ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และมีมุสลิมะฮ์จำนวนหนึ่งแสดงตนเป็นนักร้อง และนักเต้น (หางเครื่อง) ทั้งที่แต่งกายตามหลักการแห่งอิสลาม เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น และได้มีพี่น้องชาวมุสลิม จ.ตรัง แจ้งมาที่ กอจ.ตรัง เพื่อให้เข้ามาสอดส่องดูแลต่อกรณีดังกล่าวนี้
นายทวี เปิดเผยว่า ทาง กอจ.ตรัง มองว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม โดยหลักการทางศาสนาไม่อนุญาต ไม่ส่งเสริมให้มีการกระทำในลักษณะนี้ จึงได้แจ้งไปยัง กอจ.สงขลา ได้รับทราบเรื่องนี้ไว้แล้ว เพื่อตักเตือนไปยังหน่วยงาน และกลุ่มมุสลิมะฮ์โดยด่วน ไม่ให้มีการประพฤติตนเช่นนี้อีก รวมทั้งได้แจ้งไปยังจุฬาราชมนตรี เพื่อให้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ทั้ง 39 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเตือนไปยังพี่น้องชาวมุสลิมให้ระมัดระวังในการประพฤติปฏิบัติตัว
นายทวี เปิดเผยอีกว่า การออกมาชี้แจงในวันนี้ไม่ได้เป็นการก้าวก่ายการทำงานของทาง กอจ.สงขลา อย่างใด แต่เพราะการกระทำของพี่น้องมุสลิมะฮ์กลุ่มดังกล่าว อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของ กอจ.ตรัง จึงต้องดูแลตามหน้าที่ แม้ว่าในกิจกรรมดังกล่าวจะมีชาวพุทธอยู่ด้วยก็ตาม แต่พี่น้องชาวมุสลิมที่อยู่ในชุดของมุสลิมก็ควรจะสำรวม แต่การกระทำที่ออกมานี้เท่ากับเป็นการประจานมุสลิมทั้งหมด ไม่เพียงเท่านั้น ยังถือเป็นการไม่ให้เกียรติท่านจุฬาราชมนตรี ซึ่งเป็นชาว จ.สงขลา ด้วย
ด้าน นายสมาน กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวนี้ ทาง กอจ.ตรัง สามารถทำได้แค่การตักเตือน และเชื่อว่าจะไม่มีการกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นอีก เพราะตามหลักการทางศาสนาถือว่าเป็นการทำบาป มีความผิด และมีผลทางด้านจิตใจต่อชาวมุสลิมทั้งหมด เช่นเดียวกับกรณีที่ชาวต่างชาติประพฤติตัวไม่เหมาะสมต่อพระพุทธรูปที่ชาวพุทธให้ความสำคัญ แม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ถือว่ามีผลกระทบทางจิตใจต่อผู้ที่ให้ความเคารพ ดังนั้น ในกรณีดังกล่าวจึงต้องแจ้งไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก
