ยะลา - เลขาธิการ ศอ.บต. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็น ปธ.ประชุมโครงการสอนของภาษาครูต่างชาติในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุต้องพัฒนาโรงเรียนในพื้นที่ให้มีคุณภาพมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ พร้อมบูรณาการหลักสูตรทางด้านศาสนา แนะมุ่งพัฒนาทักษะทางภาษาเตรียมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
วันนี้ (10 ก.พ.) เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานการประชุมโครงการสอนภาษาของครูชาวต่างชาติในโรงเรียนมัธยมศึกษาของรัฐในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1/2557 พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายปรีชา เวชศาสตร์ ผู้อำนวยการสำนักประสานนโยบาย การศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และผู้อำนวยการจากโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมประชุมกว่า 50 คน
ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการหารือร่วมกันของ ศอ.บต.กับ สถานศึกษาของรัฐเพื่อนำครูชาวต่างชาติมาสอนภาษา อันประกอบด้วย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาอาหรับ มาสอนให้แก่เด็กๆ ในโรงเรียนของรัฐ ซึ่งโรงเรียนที่จะเข้าร่วมโครงการต้องเป็นสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาของรัฐในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 15 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทวงศึกษาธิการ
ส่วนหลักเกณฑ์คุณสมบัติการจัดจ้างครูชาวต่างชาตินั้น กรณีที่ 1 จ้างเป็นครูผู้สอน ต้องมีใบอนุญาตครูชาวต่างชาติ ขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ หรือทำเรื่องขออนุญาตปฏิบัติการสอนโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ โดยใช้หลักเกณฑ์ของคุรุสภา กรณีที่ 2 จ้างเป็นวิทยากรพิเศษภาษาอังกฤษ กำหนดคุณสมบัติคือ เป็นผู้มีหลักฐานประจำตัวที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น หนังสือเดินทาง บัตรประจำตัว เป็นเจ้าของภาษา (จาก 5 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ )
ในกรณีที่เป็นชาวต่างชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง ต้องเป็นผู้ที่ได้รับการศึกษาในประเทศไทยที่ใช้ภาษาอังกฤษมาไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือมีผลสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษ หรือมีหลักฐานแสดงความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษจากสถาบันที่เชื่อถือได้ สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า เป็นผู้ที่มีความประพฤติเหมาะสม โดยมีผู้บริหารสถานศึกษา ครู คณะกรรมการสถานศึกษา หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือรับรอง สามารถเป็นวิทยากรในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้แก่นักเรียนได้ตามที่โรงเรียนกำหนด ซึ่งจะมีการเปิดรับครูชาวต่างชาติเพื่อสอนภาษาให้แก่เด็กๆ โอกาสต่อไป
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การแก้ปัญหาความขัดแย้งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องแก้ปัญหาด้วยการศึกษาโดยให้เด็กเป็นศูนย์กลาง ต้องสนับสนุน และทำให้โรงเรียนในพื้นที่มีคุณภาพโดยต้องบูรณาการสอดคล้องให้เข้ากับหลักสูตรทางศาสนา ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่จะดึงให้เด็กในพื้นที่หันมาเรียนโรงเรียนที่เป็นสามัญมากขึ้น
ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะพยายามสนับสนุนด้านการศึกษาให้มากที่สุด โดยให้เด็กสามามารถเข้ามามีส่วนร่วม และเปิดพื้นที่ให้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสนับสนุนผลักดันในเรื่องของการใช้ภาษาอาเซียน โดยเฉพาะภาษามลายูที่ถูกใช้ในหลายประเทศ รวมถึงภาษาอังกฤษ ที่เป็นภาษาสากลซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่เด็กในพื้นที่จะต้องพัฒนาทักษะด้านนี้เพื่อนำไปใช้ได้อนาคต
นายวิทยา อุหมัน ผู้อำนวยการโรงเรียนสะนอพิทยาคม ตำบลสะนอ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ปัจจุบันหลายโรงเรียนมีความสนใจที่จะพานักเรียนไปทัศนศึกษาในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศมาเลเซีย ประเทศสิงคโปร์ แต่ติดขัดในเรื่องของระเบียบ และข้อจำกัดบางอย่างในการนำนักเรียนนักศึกษาไปต่างประเทศอยู่ จึงอยากขอเสนอว่าอยากให้ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วยเหลือในเรื่องของข้อจำกัดในการนำนักเรียนนักศึกษาไปต่างประเทศให้มีระเบียบขั้นตอนง่ายขึ้น และอยากให้ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีนโยบายส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนโดยเฉพาะพื้นที่เล็กๆ ได้ไปทัศนศึกษายังต่างประเทศ เพื่อเปิดประสบการณ์ให้เด็กนักเรียนในพื้นที่มีโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น