กระบี่ - กระบี่สร้างเครือข่ายการผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพ ตามโครงการพัฒนาศักยภาพครัวเรือนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันเพื่อการผลิตน้ำมันอย่างยั่งยืน เกษตรจังหวัดกระบี่ เผยปี 55 มีรายได้จากปาล์มน้ำมัน กว่า 15,611 ล้านบาทเศษ
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ นายกฤช รังสิเสนา ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวในโอกาสเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ จังหวัดกระบี่สร้างเครือข่ายการผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพแก่เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรและเกษตรกรแกนนำศูนย์เรียนรู้ปาล์มน้ำมันชุมชนตำบล ตามโครงการพัฒนาศักยภาพครัวเรือนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันเพื่อการผลิตน้ำมันอย่างยั่งยืน โดยมี นายไชยยุทธ์ ขุนฤทธิ์แก้ว เกษตรจังหวัดกระบี่ เกษตรอำเภอ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ผู้รับผิดชอบงานปาล์มน้ำมันอำเภอ แกนนำศูนย์เรียนรู้ปาล์มน้ำมันชุมชนตำบล และเกษตรกร เข้าร่วม จำนวน 100 คน จากตัวแทนทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดกระบี่
นายไชยยุทธ์ ขุนฤทธิ์แก้ว เกษตรจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จังหวัดกระบี่ มีการปลูกปาล์มน้ำมันมากที่สุดของประเทศ ซึ่งปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญที่สร้างรายได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด โดยในปี 55 ที่ผ่านมา จังหวัดกระบี่ มีรายได้จากปาล์มน้ำมันกว่า 15,611 ล้านบาทเศษและคาดว่ามีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต มีเกษตรกรที่ปลูกปาล์มน้ำมันมากกว่า 22,000 ครัวเรือน พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันตั้งแต่ 2-5 ไร่ จนถึงผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทมหาชนมีพื้นที่ปลูกมากกว่า 10,000 ไร่ มีแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับปาล์มน้ำมัน และองค์ความรู้ด้านปาล์มน้ำมันที่ครบวงจร ที่พร้อมจะให้เกษตรกร ผู้ประกอบการทั้งใน และต่างจังหวัดได้เข้ามาเรียนรู้จนอาจจะเรียกได้ว่าเมื่อกล่าวถึงปาล์มน้ำมันจะต้องนึกถึงจังหวัดกระบี่
สำหรับปัญหาที่สำคัญในกระบวนการผลิตปาล์มน้ำมัน คือ คุณภาพปาล์มน้ำมันที่เก็บเกี่ยวผลปาล์มดิบ รวมทั้งต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ย เนื่องจากปาล์มน้ำมันเป็นพืชอายุยาว ดังนั้น ในการบริหารจัดการสวนปาล์มน้ำมันจะต้องดำเนินการอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ เพราะหากมีการบริหารจัดการผิดพลาดไปในช่วงแรกก็จะมีผลต่อการให้ผลผลิตในช่วงต่อไปของปาล์มน้ำมันการบริหารจัดการสวนปาล์มน้ำมัน การใช้ปุ๋ย จะเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกำหนดว่าการจัดการสวนมีประสิทธิภาพมากหรือน้อย
เนื่องจากปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่ต้องการใช้ปุ๋ยในปริมาณมาก พบว่าค่าใช้จ่ายมากกว่า 50% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เป็นต้นทุน เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อปุ๋ยเพื่อใส่ให้ปาล์มน้ำมัน สาเหตุหนึ่งที่ปาล์มน้ำมันต้องการปุ๋ยในปริมาณมาก เนื่องจากปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่ให้ผลผลิตทั้งปี การใช้ปุ๋ยในปาล์มน้ำมันจำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง เพราะหากมีการใช้ปุ๋ยในปริมาณที่น้อยกว่าความต้องการของปาล์มน้ำมัน ก็จะทำให้ผลผลิตลดลง ในทางตรงกันข้าม หากมีการใช้ปุ๋ยในปริมาณที่มากเกินไป ก็จะทำให้สิ้นเปลือง เพราะเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิต นอกจากปริมาณของปุ๋ยที่เหมาะสมแล้ว ความเหมาะสมของสัดส่วนปุ๋ยแต่ละชนิดก็มีความสำคัญ เช่นเดียวกับการใช้ปุ๋ยเพียงชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ทำให้สัดส่วนของความต้องการปุ๋ยมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะมีผลทำให้ผลผลิตลดลงได้
ซึ่งปัจจุบันการใส่ปุ๋ยพืชอย่างถูกต้อง และเหมาะสม ควรมีการวิเคราะห์ปริมาณอาหารที่มีอยู่ในพืช เพื่อให้ทราบถึงความต้องการปริมาณ และชนิดของธาตุอาหารที่มีในพืชว่าเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตหรือไม่ หากทราบข้อมูลดังกล่าวจะทำให้มีการใช้ปุ๋ยได้ถูกต้อง ซึ่งจะสามารถลดต้นทุนการผลิตในการใช้ปุ๋ยได้ประมาณ 20-30% และจะสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ แกนนำศูนย์เรียนรู้ปาล์มน้ำมันชุมชนตำบล จะได้นำความรู้ไปปฏิบัติ และแนะนำเกษตรกรในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมันของจังหวัดกระบี่ ได้อย่างมั่นคง และยืนยาว
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ นายกฤช รังสิเสนา ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวในโอกาสเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ จังหวัดกระบี่สร้างเครือข่ายการผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพแก่เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรและเกษตรกรแกนนำศูนย์เรียนรู้ปาล์มน้ำมันชุมชนตำบล ตามโครงการพัฒนาศักยภาพครัวเรือนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันเพื่อการผลิตน้ำมันอย่างยั่งยืน โดยมี นายไชยยุทธ์ ขุนฤทธิ์แก้ว เกษตรจังหวัดกระบี่ เกษตรอำเภอ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ผู้รับผิดชอบงานปาล์มน้ำมันอำเภอ แกนนำศูนย์เรียนรู้ปาล์มน้ำมันชุมชนตำบล และเกษตรกร เข้าร่วม จำนวน 100 คน จากตัวแทนทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดกระบี่
นายไชยยุทธ์ ขุนฤทธิ์แก้ว เกษตรจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จังหวัดกระบี่ มีการปลูกปาล์มน้ำมันมากที่สุดของประเทศ ซึ่งปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญที่สร้างรายได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด โดยในปี 55 ที่ผ่านมา จังหวัดกระบี่ มีรายได้จากปาล์มน้ำมันกว่า 15,611 ล้านบาทเศษและคาดว่ามีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต มีเกษตรกรที่ปลูกปาล์มน้ำมันมากกว่า 22,000 ครัวเรือน พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันตั้งแต่ 2-5 ไร่ จนถึงผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทมหาชนมีพื้นที่ปลูกมากกว่า 10,000 ไร่ มีแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับปาล์มน้ำมัน และองค์ความรู้ด้านปาล์มน้ำมันที่ครบวงจร ที่พร้อมจะให้เกษตรกร ผู้ประกอบการทั้งใน และต่างจังหวัดได้เข้ามาเรียนรู้จนอาจจะเรียกได้ว่าเมื่อกล่าวถึงปาล์มน้ำมันจะต้องนึกถึงจังหวัดกระบี่
สำหรับปัญหาที่สำคัญในกระบวนการผลิตปาล์มน้ำมัน คือ คุณภาพปาล์มน้ำมันที่เก็บเกี่ยวผลปาล์มดิบ รวมทั้งต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ย เนื่องจากปาล์มน้ำมันเป็นพืชอายุยาว ดังนั้น ในการบริหารจัดการสวนปาล์มน้ำมันจะต้องดำเนินการอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ เพราะหากมีการบริหารจัดการผิดพลาดไปในช่วงแรกก็จะมีผลต่อการให้ผลผลิตในช่วงต่อไปของปาล์มน้ำมันการบริหารจัดการสวนปาล์มน้ำมัน การใช้ปุ๋ย จะเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกำหนดว่าการจัดการสวนมีประสิทธิภาพมากหรือน้อย
เนื่องจากปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่ต้องการใช้ปุ๋ยในปริมาณมาก พบว่าค่าใช้จ่ายมากกว่า 50% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เป็นต้นทุน เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อปุ๋ยเพื่อใส่ให้ปาล์มน้ำมัน สาเหตุหนึ่งที่ปาล์มน้ำมันต้องการปุ๋ยในปริมาณมาก เนื่องจากปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่ให้ผลผลิตทั้งปี การใช้ปุ๋ยในปาล์มน้ำมันจำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง เพราะหากมีการใช้ปุ๋ยในปริมาณที่น้อยกว่าความต้องการของปาล์มน้ำมัน ก็จะทำให้ผลผลิตลดลง ในทางตรงกันข้าม หากมีการใช้ปุ๋ยในปริมาณที่มากเกินไป ก็จะทำให้สิ้นเปลือง เพราะเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิต นอกจากปริมาณของปุ๋ยที่เหมาะสมแล้ว ความเหมาะสมของสัดส่วนปุ๋ยแต่ละชนิดก็มีความสำคัญ เช่นเดียวกับการใช้ปุ๋ยเพียงชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ทำให้สัดส่วนของความต้องการปุ๋ยมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะมีผลทำให้ผลผลิตลดลงได้
ซึ่งปัจจุบันการใส่ปุ๋ยพืชอย่างถูกต้อง และเหมาะสม ควรมีการวิเคราะห์ปริมาณอาหารที่มีอยู่ในพืช เพื่อให้ทราบถึงความต้องการปริมาณ และชนิดของธาตุอาหารที่มีในพืชว่าเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตหรือไม่ หากทราบข้อมูลดังกล่าวจะทำให้มีการใช้ปุ๋ยได้ถูกต้อง ซึ่งจะสามารถลดต้นทุนการผลิตในการใช้ปุ๋ยได้ประมาณ 20-30% และจะสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ แกนนำศูนย์เรียนรู้ปาล์มน้ำมันชุมชนตำบล จะได้นำความรู้ไปปฏิบัติ และแนะนำเกษตรกรในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมันของจังหวัดกระบี่ ได้อย่างมั่นคง และยืนยาว