xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มกบฏรักชาติภูเก็ตปิดสถานที่ราชการตัดวงจรการทำงานรัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กลุ่มกบฏรักชาติภูเก็ตรวมตัวเคลื่อนขบวนปิดศูนย์ราชการต่อ โดยเน้นศูนย์ราชการกระทรวงการคลัง และสำนักงานสรรพากรที่มีจัดเก็บรายได้ ตัดวงจรรัฐบาลไม่ให้นำเงินภาษีประชาชนไปใช้อย่างไม่เหมาะสม

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (4 ก.พ.) ที่หน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต กลุ่มกบฏรักชาติภูเก็ตกว่า 100 คน นำโดย นายสุรทิน เลี่ยนอุดม รวมตัวเคลื่อนขบวนปิดศูนย์ราชการต่อเนื่อง หลังจากที่ก่อนหน้าได้ร่วมแสดงพลังคัดค้านการขนบัตรเลือกตั้งไปยังหน่วยเลือกตั้ง จน กกต.ต้องประกาศยุติการลงคะแนนเลือกตั้งทั้งจังหวัดเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยในวันนี้ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ไม่มีเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงาน ประตูทางเข้าออกมีการปิดล็อก มีเพียงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนเฝ้าอยู่ภายใน เนื่องจากทราบว่าจะมีผู้ชุมนุมมาปิด

หลังจากนั้น กลุ่มกบฏรักชาติภูเก็ต ได้เคลื่อนขบวนต่อไปยังศูนย์ราชการกระทรวงการคลัง ถ.อำเภอ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ขบวนของผู้ชุมนุมเข้าไปในรั้วสำนักงาน ก็มีเจ้าหน้าที่ข้าราชการของกระทรวงการคลังจังหวัดภูเก็ต ออกมาต้อนรับ นายสุรทิน เลี่ยนอุดม แกนนำกลุ่มกบฏรักชาติภูเก็ต ได้เรียกร้องให้หัวหน้าส่วนที่มีอำนาจออกมามาพูดคุยเพื่อขอความร่วมมือปิดศูนย์ราชการไปจนกว่าจะมีการประกาศชัยชนะของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส.

จากนั้น นางกัญญา วราหกิจ สรรพากรพื้นที่ภูเก็ตได้ออกมาพูดคุยกับผู้ชุมนุม โดยให้เหตุผลว่าเหตุที่ยังมีการเปิดทำการอยู่เนื่องจากต้องเร่งดำเนินการเรื่องการคืนภาษีให้แก่พี่น้องประชาชนที่มีการยื่นขอคืนภาษี แต่ถ้าหากผู้ชุมนุมต้องการให้ปิดก็จะยอมปิด แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้สะสางงานที่ค้างอยู่ โดยจะใช้เวลาประมาณครึ่งวัน หรือ 1 วัน โดยยืนยันว่า ในเช้าวันพรุ่งนี้จะปิดศูนย์ราชการตามคำขอของผู้ชุมนุม ทางฝ่ายผู้ชุมนุมได้ยอมรับตามข้อตกลง ก่อนเคลื่อนขบวนต่อไปยังสำนักงานสรรพากรอำเภอเมือง สำนักงานสรรพากรอำเภอกะทู้ สำนักงานสรรพากรห้าแยกฉลอง และสำนักงานสรรพากรอำเภอถลาง เพื่อขอความร่วมมือให้ปิดทำการ

นายสุรทิน เลี่ยนอุดม แกนนำกลุ่มกบฏรักชาติภูเก็ต กล่าวว่า ในวันนี้จะเน้นขอความร่วมมือปิดสำนักงานสรรพากรทุกแห่งเนื่องจากเป็นการตัดวงจรการเงินของรัฐ ชะลอการเร่งรัดจัดเก็บภาษี และเพื่อไม่ให้มีการนำเงินภาษีของประชาชนไปใช้อย่างไม่เหมาะสม

 
 




กำลังโหลดความคิดเห็น