ตรัง - ตำรวจเมืองตรัง โชว์ฝีมือรวบ 2 คนร้ายลักทรัพย์บ้านอดีตภรรยา “กิจ หลีกภัย” นายก อบจ.ตรัง ไปกว่า 3 แสนบาท พบพฤติกรรมเช่าบ้านใกล้กับบ้านเหยื่อก่อนก่อเหตุ
วันนี้ (25 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรางงานว่า สืบเนื่องกรณีที่ได้มีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ที่บ้านเลขที่ 13/3 ถนนพัทลุง ซอย 11 ในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งเป็นบ้านของ นางวัชรี หลีกภัย อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ และเป็นอดีตภรรยาของนายกิจ หลีกภัย นายกองค์องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตรัง โดยทรัพย์สินที่สูญหายไปในครั้งนี้ ประกอบด้วย เงินสด จำนวน 20,000 บาทเศษ สร้อยคอ เลสข้อมือ และแหวนทองคำ จำนวน 10 บาท รวมทั้งแหวนเพชร จำนวน 2 วง ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นแหวนวงที่เคยใช้ในพิธีแต่งงานกับ นายกิจ เมื่อหลายสิบปีก่อน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่หายไปทั้งหมดประมาณ 320,000 บาท ในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่เดินทางไปต่างจังหวัด เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันนี้ (25 ม.ค.) พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงค์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม สภ.เมืองตรัง สามารถจับกุมโจรกลุ่มนี้ได้แล้ว คือ นายมนชัย ห้วยจันทร์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.6 ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ และนายสุทัศน์ จริงจิตร อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140/23 ถ.โรงเรียน ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง โดยคนร้ายทั้ง 2 คนมีพฤติกรรมไปเช่าบ้านอยู่ใกล้บ้านเหยื่อ แล้วตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ละแวกร้านค้า หรือบ้านเรือนใกล้ๆ ซึ่ง นายมนชัย ห้วยจันทร์ 1 ในคนร้ายสารภาพว่า ตนเพิ่งย้ายมาอยู่จังหวัดตรัง และก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง โดยไม่รู้ว่าบ้านที่ตนเข้าไปลักทรัพย์รายล่าสุดนั้นเป็นบ้านของอดีตภรรยาของนายกิจ หลีกภัย ส่วนทรัพย์สินที่ขโมยแต่ละครั้งจะนำไปขายเพื่อซื้อยาบ้ามาเสพ
พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง กล่าวว่า การสืบทราบครั้งนี้ได้จากภาพวงจรปิดที่ร้านขายโทรศัพท์มือถือ “โยโย้” ที่คนร้ายเคยไปก่อเหตุก่อนหน้านี้ และยังมีหลักฐานคือ รองเท้าที่คนร้ายถอดทิ้งไว้ที่บ้านเหยื่อเป็นลักษณะเดียวกันทั้ง 2 แห่ง จึงนำไปสู่การติดตามจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง เช่น พระเครื่อง โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์ และอุปกรณ์มือถือ รองเท้า กางเกง และอีกหลายรายการ
นายสิทธิ หลีกภัย เลขานุการนายก อบจ.ตรัง ซึ่งเป็นบุตรชายของ นางวัชรี ผู้เสียหาย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว โดยตนอยู่บ้านหลังนี้มา 30 ปี และถือเป็นครั้งแรกที่มีโจรขึ้นบ้าน ส่วนทรัพย์ที่ถูกขโมยไปโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ก็ไม่ใช่ของส่วนตัว เป็นของ อบจ.ตรัง ซึ่งดีใจที่ได้คืนมา แต่ก็ยังมีข้อมูลในเครื่องและอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ยังไม่ได้คืน และหวังว่าเหตุการณ์อย่างนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก โดยตนจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาหารือกับนายก อบจ. เพื่อหาทางดูว่าจะสามารถดำเนินนโยบายใดได้บ้างเพื่อแก้ไขปัญหาลักเล็กขโมยน้อยที่ระบาดมากในขณะนี้
