นครพนม-โจรบุกงัดบ้านพักผู้พิพากษาสมทบฯ กวาดเรียบ 2 รอบซ้อนกลางวันแสกๆ ทรัพย์สินสูญกว่า 2 ล้านบาท กล้องวงจรปิดมัดแน่น แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ ผกก.ตั้งทีมล่า เชื่อมีคนใกล้บ้านชี้เป้ารู้ความเคลื่อนไหวอย่างดี
วันนี้( 10 ต.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานได้รับการเปิดเผยจากนางฉวีวรรณ ธรรมชาติ อายุ 70 ปี ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวนครพนม และว่าที่ร้อยตรีวิจิตร ธรรมชาติ วัย 77 ปี ข้าราชการบำนาญ เจ้าของบ้านเลขที่ 4 ถ.เกษาประดิษฐ์ ตรงข้ามกับจวนผู้ว่าราชการหลังเก่า ว่าบ้านตนซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำและห้องรับแขก ห้องพระ 1 ห้อง โดนโจรงัดเข้ามาขดมยทรัพย์สินหลายครั้งแล้ว แต่ยังตามจับตัวคนร้ายไม่ได้
ครั้งแรกโจรงัดเข้าบ้านตน ขโมยทรัพย์สินเมื่อวันที่ 11ส.ค. 2556 เสียทรัพย์สินไปประมาณ 765,000 บาท ซึ่งมีทั้งเงินสดและเงินดอลลาร์ ต่างหูเพชร ทองรูปพรรณ ไอแพด ฯลฯ โดยตนได้ปิดบ้านฝากไว้กับญาติข้างบ้าน เดินทางไปทำธุระที่จังหวัดสงขลา เมื่อกลับมาจึงรู้ข่าวและแจ้งตำรวจไว้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้
ต่อมาตนจึงติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบบ้าน ด้านหน้าด้านหลังถึง 6 ตัว ในบ้าน 1 ตัว แต่ก็ยังถูกคนร้ายบุกขโมยทรัพย์สินอีก แต่ยังดีที่มีหลักฐานภาพวงจรปิดเห็นคนร้ายงัดบ้านตน
โจรบุกงัดบ้านตนครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมานี้เองตนและสามีได้เดินทางไปทำธุระเยี่ยมญาติที่จังหวัดสงขลาแต่ครั้งนี้ตนได้ให้ญาติและหลานมาพักที่บ้าน แต่ก็ยังโดนงัดอีกจากภาพวงจรปิดที่เห็นภาพคนร้ายจะเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 14.00 น-15.00 น. ขณะนั้นญาติที่พักอยู่ในบ้านได้เดินทางไปรับหลานที่โรงเรียนเด็กมิสชูรี่ จังหวะนั้นเองคนร้ายก็ฉวยจังหวะเข้าบ้านตนทันที
จากภาพคนร้ายได้ปีนข้ามรั้วเข้ามาทางหลังบ้านแล้วลัดมาที่ห้องครัวลักษณะเป็นคนผอมใส่เสื้อลายพร้อมมีด 1 เล่ม โดยใช้วิธีปีนเข้าตรงช่องลมเล็กๆข้างบ้านๆเข้าไปเป็นห้องน้ำแล้วตระเวณงัดบ้านด้านในกระจายทุกห้อง เริ่มแรกจากห้องนอนของตน คนร้ายงัดตู้เชพจนพังแต่ก็ไม่สามารถเปิดได้ เดชะบุญภายในตู้เซพมีเงินสด ทองรูปพรรณเครื่องเพชรมูลค่าจำนวนมาก
หลังจากนั้นคนร้ายก็บุกเข้าห้องที่ติดตั้งเครื่องวงจรปิด ถอดสายทั้งหมดก่อนที่จะปีนเข้าห้องพระทางเพดาน โดยขโมยเอาพระเหรียญสำคัญของเกจิดังหลวงปู่ทวดหลวงปู่จันทร์ ตลอดจนพระโบราณที่เราเก็บรักษาไว้โดยประเมินค่าไม่ได้ รวมทรัพย์สินที่หายไปไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท และตนเชื่อว่าเป็นคนร้ายคนเดิมที่บุกเข้าบ้านตนคือครั้งแรก ขโมยไอแพด แต่ลืมเอาเครื่องชาร์จไฟ ครั้งนี้มันเอาเครื่องชาร์จไฟไปด้วย ตนได้มอบหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด อยากให้เจ้าหน้าที่จับกุมคนร้ายมาลงโทษโดยเร็วตนกลัวจะโดนครั้งที่ 3 อีก
พ.ต.อ.สมนึก มิควาฬ ผกก.สภ.เมืองนครพนม กล่าวว่าสำหรับคดีนี้ตนให้ความสำคัญมากตอนเกิดเหตุตนก็ลงพื้นที่สืบสวน และตั้งทีมล่าคนร้ายรายนี้และมีการออกหมายจับคนร้ายตามภาพ ถ้ามีใครพบเห็นก็แจ้งเจ้าหน้าที่ด้วย โดยที่ผ่านเรามีการจับกุมแก๊งคนร้ายงัดแงะหลายคดี แต่คดีนี้คนร้ายไม่ได้อยู่ในระบบที่เราบันทึกข้อมูลไว้ แต่ตนเชื่อว่าต้องมีคนบ้านใกล้รู้เห็นกับคนร้ายคอยชี้เป้า เพราะตอนที่มีคนอยู่ในบ้านทั้งกลางวันกลางคืนโจรจะไม่ลงมือเข้าบ้านงัด พอคนออกจากบ้านโจรจะรู้ลงมือปฏิบัติการทันที
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งจับกุมคนร้ายมาลงโทษเร่งด่วนที่สุดและขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังด้วย
