นราธิวาส - CCTV บันทึกภาพคนร้ายก่อเหตุบึ้มตู้ ATM ใจกลางเมืองนราธิวาสได้ พบแยกกันก่อเหตุจุดละ 2 คน รวม 10 คน โดยใช้ จยย.เป็นพาหนะ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ระบุขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียด เชื่อคนร้ายอาศัยอยู่ในเขต อ.เมืองนราธิวาส
สำหรับความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย จำนวน 5 จุด ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ของเช้าวานนี้ (10 ต.ค.) ล่าสุด พ.ต.ท.สมชาย พนมอุปการ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทำการตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็ม และเสาไฟฟ้าใกล้เคียง ทั้ง 5 จุด
พบว่ากล้องวงจรปิดแต่ละจุดสามารถบันทึกภาพพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้เอาไว้ได้ ซึ่งแต่ละจุดร่วมก่อเหตุจุดละ 2 คน รวม 10 คน โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ และในระหว่างก่อเหตุในแต่ละจุดคนร้ายจะสวมหมวกกันน็อกเพื่ออำพรางใบหน้า และในระหว่างที่คนร้ายซึ่งทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ให้คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายนำระเบิดไปวางไว้ที่ตู้เอทีเอ็ม ยังได้ใช้มือบีบคันเบรกทำให้ไฟท้ายที่ส่องแผ่นป้ายทะเบียนมีแสงสว่างจ้า ภาพวงจรปิดไม่สามารถบันทึกแผ่นป้ายทะเบียนของรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุในครั้งนี้ได้ชัดเจนนัก ต้องรอผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจากกองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส เอาภาพวงจรปิดต้นฉบับไปเข้ากระบวนการด้านเทคนิค เพื่อให้ภาพมีความคมชัดมากยิ่งขึ้น ในการแกะรอยกลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุด้วยแผ่นป้ายทะเบียนของรถจักรยานยนต์ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง จึงสามารถทราบว่า รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุในแต่ละจุดใครเป็นผู้ครอบครอง เพื่อขยายผลไปสู่การเชิญตัวมาสอบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีดังกล่าวนี้ต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะเนวิน ผบก.ภ.จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า คดีลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม 5 จุด ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสครั้งนี้ เมื่อคดีมีความคืบหน้า และชัดเจนจะมีการแถลงข่าว ขอเวลารอให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ และคาดว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุคงเป็นคนในพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส เจ้าหน้าที่ต้องมีการทำงานหลายขั้นตอน อย่างน้อยต้องใช้เวลาในการดู และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในช่วงเย็นก่อนเกิดเหตุ เพื่อมาเปรียบเทียบกับรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย รวมถึงรถจักรยานยนต์ว่าใครบุคคลใดในภาพวงจรปิดที่ตกอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัย หลังนำมาเปรียบเทียบกับกล้องวงจรปิดที่บันทึกได้ขณะก่อเหตุ ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่ต้องรีบดำเนินการคลี่คลายในคดีดังกล่าวนี้
ส่วนกรณีลอบวางเพลิง ยิง ขว้างระเบิด และขโมยรถบรรทุกน้ำในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.ยี่งอ อ.บาเจาะ อ.ระแงะ และ อ.รือเสาะ นั้น ก็ได้มีการเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคลี่คลายคดีดังกล่าวโดยเร็วเช่นกัน เพราะเชื่อว่าเป็นกลุ่มคนร้ายที่ได้รับการสั่งการจากแหล่งเดียวกันให้มาก่อเหตุ