ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบรถเข้าออกผ่านด่านตรวจท่าฉัตรไชยภูเก็ต สร้างความเชื่อมั่น ประชาชน นักท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สถานีตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้มีการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อเตรียมพร้อมในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และหารือมาตรการรับมือการก่อเหตุอาชญากรรม และการก่อการร้ายที่อาจแอบแฝงเข้ามาช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ โดยมี พ.ต.อ.ศักด์ชัย ลิ้มเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟังแนวทางในการป้องกัน และลดปัญหาอุบัติเหตุในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในช่วงปีใหม่
พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ในจังหวัดภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทางตำรวจภูธรจังหวัดก็ได้ให้ความสำคัญ โดยได้จัดทำคำสั่ง แผนปฏิบัติการในการที่จะดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ตั้งจุดตรวจจุดสกัด และเพิ่มความเข้มในการตรวจตราสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว ย่านชุมชนที่มีประชาชน และนักท่องเที่ยวไปรวมตัวกันอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ซึ่งเป็นด่านตรวจหลัก ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรายานพาหะนะที่เข้าออกอย่างละเอียด และตรวจสอบระบบวงจรปิดให้สามารถใช้การได้เต็มประสิทธิภาพ
และในส่วนของตำรวจภูธรภาค 8 ก็จะมีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่มาเสริมการปฏิบัติงานตลอดช่วงเทศกาล โดยในส่วนจุดตรวจจุดสกัดก็มีการปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ทั้งจุดตรวจป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และอำนวยความสะดวกการจราจร เนื่องจากจะมีการสัญจรจำนวนมาก มีการทำแผนการดูแลเรื่องจราจร และอุบัติเหตุ และตรวจจับแอลกอฮอล์ โดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ประชุมวางแผนร่วมกัน ส่วนในเรื่องการดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการ ได้ประสานกับจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอให้ทุกหน่วยงาน ทุกส่วนราชการได้ร่วมจัดระบบการรักษาความปลอดภัยของที่ตั้ง และสถานที่ล่อแหลม เช่น ท่ารถ ท่าเรือ ท่าอากาศยาน และสถานีบริการน้ำมัน หรือจุดอื่นๆที่คาดว่าผู้ไม่หวัดดีจะเข้ามาก่อเหตุ เพื่อให้ทุกหน่วยมีความตื่นตัว
ขณะที่บรรยากาศที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจตราเข้มรถที่เข้าออกในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งขาเข้า และขาออก เพื่อตรวจสอบรถ และบุคคลต้องสงสัยเพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีอาศัยช่วงใกล้เทศกาลเดินทางเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ โดย พ.ต.อ.ณัฎฐภาคิน ขวัญชัยพฤกษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย กล่าวว่า ที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ขณะนี้มีจำนวนรถผ่านเข้าออกเยอะขึ้นเพราะใกล้ช่วงเทศกาล ทางเจ้าหน้าที่จึงเน้นการตรวจตรารถที่จะเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว โดยมีการบูรณาการกำลังร่วมกับอำเภอถลาง ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มาร่วมปฏิบัติหน้าที่ตรวจ คัดกรองผู้เข้ามาท่องเที่ยว และอำนวยความสะดวกการจราจร
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในวันธรรมดามีรถผ่านด่านตรวจประมาณวันละ 6,000 คัน และออกจากด่านอีกวันละประมาณ 6,000 คัน ส่วนในช่วงเทศกาลก็จะมีรถเข้าออกประมาณวันละ 8,000 คัน ทั้งขาเข้า และขาออก ซึ่งในการตรวจสอบรถต่างๆ นั้นนอกจากจะใช้เจ้าหน้าที่ในการตรวจสกรีนรถที่ผ่านเข้าออกแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ยังใช้เทคโนโลยีจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ที่ด่านตรวจ และพื้นที่จุดเสี่ยงทั้งหมด 56 กล้อง แบ่งเป็นฝั่งขาเข้า 28 ตัว และฝั่งขาออก 28 ตัว โดยกล้องต่างๆ เหล่านี้จะทำหน้าที่เก็บภาพ และสกรีนรถที่เป็นเป้าหมายที่จะผ่านเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต เป็นกล้องในระบบไลเซนซ์เพจ ซึ่งสามารถตรวจจับ คัดแยกทะเบียนรถซึ่งผ่านเข้าออกได้ จึงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ยังมั่นใจได้ว่าจะสร้างความปลอดภัยได้
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สถานีตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้มีการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อเตรียมพร้อมในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และหารือมาตรการรับมือการก่อเหตุอาชญากรรม และการก่อการร้ายที่อาจแอบแฝงเข้ามาช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ โดยมี พ.ต.อ.ศักด์ชัย ลิ้มเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟังแนวทางในการป้องกัน และลดปัญหาอุบัติเหตุในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในช่วงปีใหม่
พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ในจังหวัดภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทางตำรวจภูธรจังหวัดก็ได้ให้ความสำคัญ โดยได้จัดทำคำสั่ง แผนปฏิบัติการในการที่จะดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ตั้งจุดตรวจจุดสกัด และเพิ่มความเข้มในการตรวจตราสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว ย่านชุมชนที่มีประชาชน และนักท่องเที่ยวไปรวมตัวกันอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ซึ่งเป็นด่านตรวจหลัก ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรายานพาหะนะที่เข้าออกอย่างละเอียด และตรวจสอบระบบวงจรปิดให้สามารถใช้การได้เต็มประสิทธิภาพ
และในส่วนของตำรวจภูธรภาค 8 ก็จะมีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่มาเสริมการปฏิบัติงานตลอดช่วงเทศกาล โดยในส่วนจุดตรวจจุดสกัดก็มีการปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ทั้งจุดตรวจป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และอำนวยความสะดวกการจราจร เนื่องจากจะมีการสัญจรจำนวนมาก มีการทำแผนการดูแลเรื่องจราจร และอุบัติเหตุ และตรวจจับแอลกอฮอล์ โดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ประชุมวางแผนร่วมกัน ส่วนในเรื่องการดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการ ได้ประสานกับจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอให้ทุกหน่วยงาน ทุกส่วนราชการได้ร่วมจัดระบบการรักษาความปลอดภัยของที่ตั้ง และสถานที่ล่อแหลม เช่น ท่ารถ ท่าเรือ ท่าอากาศยาน และสถานีบริการน้ำมัน หรือจุดอื่นๆที่คาดว่าผู้ไม่หวัดดีจะเข้ามาก่อเหตุ เพื่อให้ทุกหน่วยมีความตื่นตัว
ขณะที่บรรยากาศที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจตราเข้มรถที่เข้าออกในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งขาเข้า และขาออก เพื่อตรวจสอบรถ และบุคคลต้องสงสัยเพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีอาศัยช่วงใกล้เทศกาลเดินทางเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ โดย พ.ต.อ.ณัฎฐภาคิน ขวัญชัยพฤกษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย กล่าวว่า ที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ขณะนี้มีจำนวนรถผ่านเข้าออกเยอะขึ้นเพราะใกล้ช่วงเทศกาล ทางเจ้าหน้าที่จึงเน้นการตรวจตรารถที่จะเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว โดยมีการบูรณาการกำลังร่วมกับอำเภอถลาง ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มาร่วมปฏิบัติหน้าที่ตรวจ คัดกรองผู้เข้ามาท่องเที่ยว และอำนวยความสะดวกการจราจร
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในวันธรรมดามีรถผ่านด่านตรวจประมาณวันละ 6,000 คัน และออกจากด่านอีกวันละประมาณ 6,000 คัน ส่วนในช่วงเทศกาลก็จะมีรถเข้าออกประมาณวันละ 8,000 คัน ทั้งขาเข้า และขาออก ซึ่งในการตรวจสอบรถต่างๆ นั้นนอกจากจะใช้เจ้าหน้าที่ในการตรวจสกรีนรถที่ผ่านเข้าออกแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ยังใช้เทคโนโลยีจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ที่ด่านตรวจ และพื้นที่จุดเสี่ยงทั้งหมด 56 กล้อง แบ่งเป็นฝั่งขาเข้า 28 ตัว และฝั่งขาออก 28 ตัว โดยกล้องต่างๆ เหล่านี้จะทำหน้าที่เก็บภาพ และสกรีนรถที่เป็นเป้าหมายที่จะผ่านเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต เป็นกล้องในระบบไลเซนซ์เพจ ซึ่งสามารถตรวจจับ คัดแยกทะเบียนรถซึ่งผ่านเข้าออกได้ จึงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ยังมั่นใจได้ว่าจะสร้างความปลอดภัยได้
