ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย รวบ 2 หนุ่มชาวภูเก็ตคาด่านตรวจ หลังตรวจค้นภายในรถยนต์พบมีการซุกซ่อนยาบ้า 92 เม็ด พร้อมเงินสด จำนวน 35,000 บาท จึงควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้านผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (29 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย นำโดย พ.ต.อ.ณัฐภาคิน ขวัญชัยพฤกษ์ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ รอง ผกก.ป.สภ.ท่าฉัตรไชย พ.ต.ท.อำไพ นิ่มสุวรรณ สว.อก.ท่าฉัตรไชย ร.ต.ท.นพดล หน่อนิล รอง สวป.สภ.ท่าฉัตรไชย ด.ต.บุญลอบ มากสาขา ด.ต.สุรีย์ เจริญพร ส.ต.อ.อดุลย์ หลำหลง ส.ต.ท.วีระชาติ บุญประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สภ.ท่าฉัตรไชย และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีกจำนวนหนึ่ง ร่วมกันจับกุม นายอนุพงษ์ ไชยทอง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/33 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และนายฐากร ชวนาคสมุน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ซ.หัชนานิเวศน์ 1/4 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 92 เม็ด เงินสด จำนวน 35,000 บาท โดยสามารถจับกุมได้ที่ด่านตรวจภูเก็ต ม.5 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
สำหรับพฤติการณ์ในการจับกุมครั้งนี้ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจภูเก็ต ฝั่งขาเข้าเมืองภูเก็ต ได้มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฆจ 8820 กรุงเทพมหานคร วิ่งมาจากจังหวัดพังงา มุ่งหน้าสู่จังหวัดภูเก็ต เมื่อมาถึงด่านตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกให้จอดเพื่อทำการตรวจค้น เนื่องจากสงสัยจะมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ พบนายอนุพงษ์ ไชยทอง เป็นผู้ขับขี่ และมี นายฐากร ชวนาคสุมน นั่งอยู่เบาะด้านซ้ายข้างคนขับ โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการตรวจค้นภายในรถคันดังกล่าว พบยาบ้าจำนวน 92 เม็ด อยู่ในถุงพลาสติกใสห่อหุ้มด้วยกระดาษทิชชู พันด้วยเทปกาวใสอีก 1 ชั้น ได้ซุกซ่อนใส่ไว้ช่องเก็บของทางด้านหน้าซ้ายตรงกับเบาะคนนั่งข้าง และยังพบเงินสด จำนวน 35,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ตรวจของกลางดังกล่าว และได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ให้การปฏิเสธว่า ยาบ้าดังกล่าวไม่ใช่ของพวกตน แต่ให้การรับว่าได้เสพยาบ้าจริง แต่ นายอนุพงษ์ บอกว่า ตนเองเป็นคนยืมรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมาจากเพื่อนชื่อ ติ๋ม จากพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต เพื่อไปธุระที่จังหวัดพังงา