พังงา - ตำรวจทางหลวงจับ 2 หนุ่มโชเฟอร์รถแท็กซี่ป้ายดำ พร้อมใบกระท่อมสดคาด่านตรวจ น้ำหนัก 45 กิโลกรัม อ้างมีคนฝากให้นำมาส่งที่ภูเก็ต
เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (8 มี.ค.) ที่สถานีตำรวจทางหลวงพังงา พ.ต.ต.มนพร ลิขิตมานนท์ สว.ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. พร้อมด้วย ร.ต.ต.สุระชาติ สะใบบาง ด.ต.กฤต แก้วศรีอ่อน และ ด.ต.พงศธร แดงเสนาะ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหามียาเสพติด ประเภท 5 (พืชกระท่อม) ไว้ในครอบครอง ซึ่งจับกุมในขณะเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจสกัดบนทางหลวงหมายเลข 44 (เซาเทิร์นซีบอร์ด) ระหว่าง กม.37-36 บริเวณหมู่ที่ 9 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ในช่วงเวลาประมาณ 07.30 น. วันนี้ ได้มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กธ 4381 ภูเก็ต ขับมาจากจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าเข้าอำเภอปลายพระยา เพื่อผ่านไปจังหวัดพังงา
คนขับทราบชื่อต่อมา คือ นายสุริยา ยุคุณธร อายุ 31 ปี อาชีพขับแท็กซี่ป้ายดำในจังหวัดภูเก็ต อยู่บ้านเลขที่ 15/2 หมู่ที่ 4 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และนายฝืน จิตรชำนาญ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94/3 ม.11 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นั่งเบาะด้านข้างคนขับ ได้เห็นจุดตรวจสกัดตำรวจทางหลวงขวางอยู่ข้างหน้าท่าทางมีพิรุธให้เห็นชัดเจน ด้วยการชะลอรถหัวรถส่ายไปมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงขอทำการตรวจค้น พบภายในรถยนต์ตรงเบาะนั่งด้านหลังมีกล่องลังโฟมปิดฝาด้วยกาวใสบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสก่อนพันทับด้วยกระดาษกาวสีน้ำตาล จำนวน 3 ลัง ตั้งเรียงซ้อนกัน และภายในกระโปรงหลังยังพบกล่องลังโฟมแบบเดียวกันอีก จำนวน 3 ลัง กับถุงพลาสติกสีดำบรรจุใบกระท่อมสดเต็มถุง จึงทำการเปิดกล่องลังโฟมตรวจสอบภายใน
พบว่า บรรจุใบกระท่อมสดอัดแน่นทั้ง 6 ลัง รวมน้ำหนักใบกระท่อมสด 43 กิโลกรัม กับใบกระท่อมสดที่บรรจุอยู่ในถุงดำอีก 2 กิโลกรัม รวมเป็นของกลางใบกระท่อมสดทั้งสิ้นน้ำหนัก 45 กิโลกรัม จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 5 (พืชกระท่อม)ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเนื่องจากผู้ต้องหาพยายามเจรจาเพื่อต่อรองกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเพื่อให้ตนเองพ้นจากความผิดโดยการบอกว่าจะจ่ายเงินให้ จึงเพิ่มข้อกล่าวหาว่า ผู้ใด ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานฯ เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่
โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การว่า ได้กลับมาจากส่งนักท่องเที่ยวชาวรัสเชียที่ได้ว่าจ้างจากจังหวัดภูเก็ตให้ไปส่งที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายหลังจากส่งนักท่องเที่ยวเรียบร้อยแล้ว ขณะเตรียมเดินทางกลับจังหวัดภูเก็ต ได้มีผู้ชายอายุประมาณ 40 ปี ไม่ทราบชื่อ ที่อยู่ เดินเข้ามาพบ และขอฝากของไปจังหวัดภูเก็ต โดยจะมีคนไปรอรับของฝากดังกล่าวอยู่ที่สี่แยกราชภัฏภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตนจึงรับไว้โดยไม่คิดว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายบรรจุอยู่ภายใน
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมกับของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเวร สภ.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
