xs
xsm
sm
md
lg

เชื่อเหตุบึ้ม! สะเดาโยงไฟใต้ ระวังบึ้มอีกก่อนปีใหม่ หาดใหญ่สั่งคุมเข้ม 24 ชม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สรุปความคืบหน้าเหตุระเบิดที่ อ.สะเดา จ.สงขลา จนท.ตั้ง 2 ประเด็นคือ เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ และการโต้ตอบการตัดท่อน้ำเลี้ยงในการปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อน ชี้ผู้ก่อเหตุคือกลุ่มเดียวกันกับเหตุฆ่า 5 ศพ ปัตตานี สั่งจับตา 3 แกนนำแนวร่วมสงขลา ด้านหน่วยความมั่นคงแจ้งเหตุคาร์บอมบ์ยังมีอีกก่อนช่วงสิ้นปี ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสรักษาห้องไอซียูอีก 3 ราย นายอำเภอหาดใหญ่ สั่งศูนย์วิทยุมณโฑ เฝ้าระวัง 24 ชม. หวั่นเหตุคาร์บอมบ์ซ้ำ ขณะที่นักท่องเที่ยวใน อ.สะเดา ยังคงหนาแน่น ไม่เกรงเหตุระเบิด

วันนี้ (23 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุระเบิด 3 จุดในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา พบว่าการลอบวางระเบิดทั้ง 3 จุด เป็นกลุ่มเดียวกันที่ก่อเหตุฆ่าชิงรถกระบะ 5 ศพ ที่ปัตตานี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพราะรถคันดังกล่าวถูกนำมาทำคาร์บอมบ์ครั้งนี้

ส่วนสาเหตุ จนท.ตั้ง 2 ประเด็นคือ เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ และการโต้ตอบการตัดท่อน้ำเลี้ยงในการปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ และคาดว่าผู้ก่อเหตุมีอย่างน้อย 5 คน มุ่งจับตา 3 แกนนำพื้นที่สงขลา คือ นายเสรี แวมามุ นายรุสลัน ใบหมะ ผู้ต้องหาลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า และนายอับดุลตอเละ กาสอ ผู้ต้องหาลอบวางระเบิดร้านน้ำชาใน อ.นาทวี ด้านผู้ว่าฯ สงขลา เผยถึงความคืบหน้าคดีจากภาพวงจรปิดของโรงแรมบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายไว้ได้ และรถที่ใช้ก่อเหตุชัดเจน

นอกจากนี้ หน่วยความมั่นคงชายแดนภาคใต้ มีการแจ้งเตือนข่าวระเบิดคาร์บอมบ์ยังมีอีกในช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติถูกส่งมารักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หรือ ม.อ.หาดใหญ่ 11 ราย ส่วนใหญ่มีอาการโดนไฟไหม้ แรงอัด และสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย แพทย์เร่งทยอยนำเข้าห้องผ่าตัด และมีผู้ป่วยห้องไอซียู 3 ราย คือหญิงชาวเวียดนาม 1 ราย เส้นเลือดเลี้ยงสมองฉีกขาด ชายไทยอีก 2 คน คนหนึ่งหัวกะโหลกเปิด มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง และมีบาดแผลไฟไหม้ แต่ถึงแม้จะมีเหตุคาร์บอมบ์เกิดขึ้น นักท่องเที่ยวที่สะเดายังคงหนาแน่น แม้ จนท.ยังเคลียร์พื้นที่ระเบิดไม่เสร็จ ส่วนด้านในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ได้เตรียมการคุมเข้มสั่งศูนย์วิทยุมณโฑ เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง

บึ้ม 3 จุดสะเดา คนร้ายกลุ่มเดียวกับฆ่า 5 ศพ ปัตตานี

การสืบสวนขยายผลเหตุระเบิด 3 จุดในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ทั้งที่ สภ.ปาดังเบซาร์ สภ.สะเดา และที่โรงแรมโอลิเวอร์ บ้านด่านนอกชายแดนไทย-มาเลเซีย เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นเครือข่ายเดียวกันกับที่ยิงชาวบ้าน 5 ศพในพื้นที่ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากรถยนต์กระบะคาร์บอมบ์ที่วางระเบิดข้างโรงแรมโอลิเวอร์ ซึ่งเป็นรถยนต์กระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บม 5164 นครศรีธรรมราช เป็นคันเดียวกันกับที่ถูกขโมยไป

สั่งจับตา 3 แกนนำแนวร่วมสงขลา

โดยพุ่งเป้าไปที่ 3 แกนนำหลักในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนสงขลา คือ นายเสรี แวมามุ นายรุสลัน ใบหมะ ผู้ต้องหาลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า และนายอับดุลตอเละ กาสอ ผู้ต้องหาลอบวางระเบิดร้านน้ำชาใน อ.นาทวี ขณะที่กลุ่มผู้ก่อเหตุระเบิดทั้ง 3 จุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่ามีอย่างน้อย 5 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิดทั้ง 3 จุด เพื่อดูพฤติกรรมในการก่อเหตุของคนร้าย หาตัวผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติม ทั้งผู้ที่ขับรถมาจอด รวมถึงผู้ต้องสงสัยที่น่าจะขับรถมาดูลาดเลาก่อนที่จะก่อเหตุ ส่วนระเบิดที่คนร้ายใช้ทั้ง 3 จุดนั้น เป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบตั้งเวลาด้วยนาฬิกา ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบวัตถุพยานทั้ง 3 จุด

ผู้ว่าฯ สงขลา เผยคดีคืบ CCTV มัดตัวคนร้าย

ด้าน นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เปิดเผยว่า คดีระเบิด 3 จุดสะเดา มีความคืบหน้าไปพอสมควร จากภาพวงจรปิดของโรงแรมได้บันทึกพฤติกรรมของคนร้ายไว้ได้ และรถที่ใช้ก่อเหตุชัดเจนแล้วว่าเป็นรถที่ปล้นฆ่า 5 ศพ ที่ จ.ปัตตานี แล้วนำมาเปลี่ยนสี และต่อเติมจากสภาพเดิมเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ เหตุร้ายที่เกิดขึ้นน่าจะเชื่อมโยงของกลุ่มคนร้ายจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนจะเชื่อมโยงกับกลุ่มอิทธิพลทำธุรกิจสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่หรือไม่นั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนสอบสวนก่อน

หน่วยความมั่นคงแจ้งเตือนอาจจะมีบึ้มอีกก่อนปีใหม่

นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงชายแดนภาคใต้ เผยว่า ระเบิดคาร์บอมบ์ และจักรยานยนต์บอมบ์ ซึ่งกลุ่มคนร้ายประกอบเสร็จแล้วยังมีอีก ซึ่งเตรียมนำมาใช้ก่อเหตุในทุกพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา แล้วแต่โอกาสและจังหวะในช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่

ผู้บาดเจ็บที่ รพ.ม.อ.หาดใหญ่ อีก 11 คน ทั้งไทยและต่างชาติ

ผศ.นพ.ชิต เพชรพิเชฐเชียร ผอ.รพ.ม.อ.หาดใหญ่ พร้อมด้วยทีมแพทย์ และพยาบาล ได้ร่วมกันแถลงถึงความคืบหน้าอาการของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ 3 จุด ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งมียอดผู้บาดเจ็บรวม 27 ราย

ด้าน ผศ.นพ.ชิต เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางโรงพยาบาลได้รับแจ้งเหตุระเบิด และมีการประสานขอส่งตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงได้สั่งให้มีการประกาศแผนอุบัติเหตุหมู่ขึ้น เพื่อระดมกำลังแพทย์ พยาบาล และบุคลากรมาเป็นกำลังเสริมในการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ในห้องฉุกเฉิน รวมทั้งมีการขยายพื้นที่ห้องผ่าตัดเพิ่มขึ้นด้วย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกส่งตัวมายัง รพ.ม.อ. มีทั้งสิ้น 12 คน เป็นชาย 6 คน และหญิง 6 คน ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ใกล้กับจุดระเบิดบริเวณโรงแรมโอลิเวอร์ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นแรงงานหญิงต่างชาติ คือ ชาวพม่า และเวียดนาม รวม 2 คน และแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ 1 คน เนื่องจากได้บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น

ทั้งนี้ ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 11 คน ที่เหลือที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ม.อ. ส่วนใหญ่มีอาการหนัก เนื่องจากโดนทั้งไฟไหม้ รวมทั้งแรงอัด และสะเก็ดระเบิดตามร่างกายหลายแห่ง ซึ่งแพทย์ต้องเร่งทยอยนำเข้าห้องผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตเป็นการด่วน โดยขณะนี้มีผู้ป่วยที่ต้องรักษา และรอดูอาการอยู่ในห้องไอซียู จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย หญิงชาวเวียดนาม 1 ราย โดนแรงอัด และสะเก็ดระเบิดจนทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองฉีกขาด และชายไทยอีก 2 คน

โดยหนึ่งในนั้นโดนแรงอัดระเบิดจนหัวกะโหลกเปิด มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง และมีบาดแผลไฟไหม้ตามตัวอย่างรุนแรงอีกหลายแห่ง ซึ่งจากการวัดชีพจรล่าสุด ผู้ป่วยยังคงปลอดภัย ส่วนผู้ป่วยที่เหลือได้ถูกส่งต่อไปยังหออภิบาลผู้ป่วย และหอศัลยกรรมกระดูกและข้อ ซึ่งแพทย์ได้ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด

ด่านพรมแดนสะเดายังคึกคัก นักท่องเที่ยวแน่น แม้ จนท.ยังเคลียร์พื้นที่ไม่เสร็จ

และแม้จะเกิดเหตุระเบิดขึ้น 3 จุดในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา โดยเฉพาะที่โรงแรมโอลิเวอร์ เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม ซึ่งเป็นใจกลางด้านการท่องเที่ยวของบ้านด่านนอก ชายแดนไทย-มาเลเซีย แต่บรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ยังคงคึกคัก มีกรุ๊ปทัวร์นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งมาเลเซีย และสิงคโปร์เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมของเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวมากนัก

ขณะที่บรรยากาศโดยรอบของโรงแรมโอลิเวอร์ เจ้าหน้าที่ยังคงกันพื้นที่เป็นเขตหวงห้าม เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าตรวจสอบ และเก็บหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยยังคงมีเศษซากรถยนต์คาร์บอมบ์ รวมทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่เสียหายจากแรงระเบิดอยู่ในบริเวณเกิดเหตุ ขณะที่ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะเข้าไปตั้งโต๊ะให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบได้ลงชื่อเพื่อรับการเยียวยาต่อไป

สั่งคุมเข้มหาดใหญ่ 24 ชม.

วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมสโมสร ค่ายเสณาณรงค์ อ.หาดใหญ่ พล.ต.เลอชัย มาลีเลิศ ผบ.มทบ.42 และ ายณรงค์พร ณ พัทลุง นายอำเภอหาดใหญ่ พร้อมด้วยตัวแทนภาคธุรกิจ โรงแรม และสถานบริการ ได้ประชุมลูกข่าย และสมาชิกศูนย์วิทยุมณโฑ เพื่อวางมาตรการป้องกันเหตุร้ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ หลังเกิดเหตุที่ อ.สะเดาขึ้น เนื่องจากหาดใหญ่เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายที่มีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยให้สมาชิกศูนย์วิทยุมณโฑ ช่วยเฝ้าระวังรถต้องสงสัย หรือวัตถุแปลกปลอม ที่จอด หรือวางไว้ตามสถานที่ต่างๆ ในเขตตัวเมือง รวมถึงบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย เช่น ขับรถมาจอดไว้แล้วขึ้นรถคันอื่นออกไป โดยให้รีบแจ้งประสานกับทางกองกำลังตำรวจ และทหารในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น