ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ว่าฯ สงขลา เผยจะนำความคิดเห็นของประชาชนไปปรับใช้ในโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ระบุวงเงิน 8,000 ล้านบาท ใช้ขยายคลอง ร.1 และอาจเพิ่มอ่างเก็บน้ำ อ.สะเดา รวมทั้งแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ให้กระทบต่อประชาชนปลายน้ำ
จากการที่จังหวัดสงขลา จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า สำหรับจังหวัดสงขลา ได้เสนอให้แก้ปัญหาน้ำท่วมใน อ.หาดใหญ่ จำนวน 2 โครงการ ซึ่งได้รับการบรรจุลงในแผนโครงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยงบ 3 แสน 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามระเบียบคำสั่งของศาลปกครองที่การก่อสร้างจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ดังนั้น รัฐบาลจึงได้ดำเนินการโดยใช้ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นพื้นที่รับฟังความคิดเห็น ซึ่งมีพี่น้องประชาชนจาก อ.หาดใหญ่ อ.คลองหอยโข่ง อ.สะเดา อ.นาหม่อม และ อ.บางกล่ำ ที่อยู่ในพื้นที่ก่อสร้าง และได้รับผลกระทบ
สำหรับเรื่องที่ประชาชนกังวลที่ผ่านมา คือ เมื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่รอบนอกบริเวณ อ.บางกล่ำ และ อ.คลองหอยโข่ง ดังนั้น ประชาชนจึงได้เสนอเป็นเอกสารว่า หากแก้ปัญหาในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนปลายน้ำ ซึ่งผู้จัดโครงการฯ พร้อมรับฟังข้อเสนอ และนำไปปรับปรุงในโครงการงบประมาณ 8,000 ล้านบาท
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังได้กล่าวอีกว่า การจัดเวทีครั้งนี้จะเป็นความคิดเห็นทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งโครงการนี้ยังไม่ได้ดำเนินการ แต่จะนำความคิดเห็นของประชาชนนำไปปรับเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งโครงการที่จะดำเนินการในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ แตกต่างจากพื้นที่ดำเนินการอื่นๆ คือ ไม่ต้องออกพระราชบัญญัติเวนคืนที่ดิน หรือรุกที่ดินของชาวบ้าน เพราะใช้การขยายคลอง ร.1 ซึ่งเป็นคลองที่กรมชลประทานเวนคืนจากชาวบ้านเรียบร้อยแล้ว และเป็นที่ดินโครงการที่ขยายจากโครงการอันเนื่องจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระราชดำริว่า อ.หาดใหญ่ ในพื้นที่ลุ่มจะต้องมีคลองเพิ่มมากขึ้นเพื่อระบายน้ำลงสู่อ่าวไทยให้ได้จำนวนมาก
จังหวัดสงขลา จึงได้เสนอคลอง ร.1 ซึ่งรายละเอียดคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ. ได้นำโมดูลแบบโครงการก่อสร้างทั้งหมดมาแสดงให้พี่น้องประชาชนได้ซักถาม และหากพี่น้องประชาชนมีข้อเสนอ สามารถเสนอมาได้ที่จังหวัด โดยทางจังหวัดจะเสนอถึงคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย และให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องชาวสงขลาให้ได้มากที่สุด และขอยืนยันว่า การขยายคลอง ร.1 หรือคลองอู่ตะเภา อยู่ในเขตพื้นที่ จ.สงขลา ทั้งหมดไม่กระทบต่อจังหวัดอื่น
นอกจากนั้น จากการที่ได้พุดคุยกับนายกรัฐมนตรี ทราบว่า แม้ว่าโครงการจะมีงบประมาณ 5,000-8,000 ล้านบาท แต่ถ้ามีบางส่วนที่เกี่ยวข้องก็สามารถเพิ่มเติมงบประมาณได้ เช่น อ.สะเดา มีอ่างเก็บน้ำเพียงอ่างเดียว จึงขอให้รัฐบาลเพิ่มเป็น 2 อ่าง เพื่อกักเก็บน้ำจากต้นน้ำไว้ใช้ ซึ่งรัฐบาลได้เห็นชอบ และมอบกรมชลประทานมาดำเนินการต่อไป
