นครศรีธรรมราช - กองทัพภาค 4 นำเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจสภาพน้ำพบป่าไม้ถูกตัดเป็นจำนวนมาก หลังภาคพื้นดินสภาพน้ำท่วมนครศรีธรรมราชคลี่คลาย ฝนทิ้งช่วงไปแล้วกว่า 24 ชั่วโมง ส่งผลให้ระดับน้ำลดจนเกือบเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราชเร่งระบายน้ำที่ยังท่วมขัง
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช สภาวะน้ำท่วมฉับพลันในหลายอำเภอของนครศรีธรรมราช ซึ่งได้ถูกประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติถึง 21 อำเภอ เริ่มคลี่คลายลงไปตามลำดับหลังจากที่ฝนได้ทิ้งช่วงมาแล้วมากกว่า 24 ชั่วโมง ทำให้ระดับน้ำที่เป็นปัญหาจากฝนตกแช่มาอย่างต่อเนื่องตลอด 5 วันที่ผ่านมาระบายได้อย่างรวดเร็ว และบริเวณต้นน้ำจากเทือกเขาหลวงในช่วงต้นน้ำท่าดี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ระดับน้ำเข้าสู่สภาวะปกติที่ประมาณ 1.75 เมตร โดยช่วงที่น้ำป่าไหลหลากระดับน้ำสูงถึง 5.40 เมตร
ขณะที่สภาพน้ำที่ท่วมอยู่ในเขตเศรษฐกิจของตัวเมืองในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ระบายไปได้อย่างรวดเร็วผ่านลำคลองสายหลักคือ คลองนครน้อย และคลองราเมศวร์ โดยจะไหลออกสู่อ่าวไทยบริเวณปากน้ำปากนคร โดยกรมชลประทานได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ และเครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำออกจากคลองนครน้อย ทำให้น้ำระบายได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้เปลี่ยนจากธงสีแดงซึ่งเป็นสัญญาณเตือนอันตราย เป็นธงสีเขียวหมายถึงสถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ และรถไฟได้เริ่มออกเดินรถจากสถานีนครศรีธรรมราช ไปยังสถานีต่างๆ ในภาคใต้ตอนล่างได้แล้ว ส่วนโรงเรียนในพื้นที่นครศรีธรรมราช เตรียมที่จะเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
พล.ต.ชรินทร์ อมรแก้ว รองแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยนายทหารฝ่ายเสนาธิการ ได้นำหน่วยแพทย์ทหารเคลื่อนที่เข้าตรวจสุขภาพ และมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนในตำบลนาทหาร และตำบลท่างิ้ว ที่อพยพหนีน้ำท่วมสูงขึ้นมาอาศัยอยู่บริเวณขอบรันเวย์สนามบินกองทัพภาคที่ 4 จำนวนมาก พร้อมทั้งให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่เข้าดูแลจนกว่าสถานการณ์จะปกติ
ภายหลังรองแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยนายทหารฝ่ายเสนาธิการได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมกำลังพลเพื่อเข้าร่วมฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเช่นใน หมู่ที่ 6 หมู่ที่ 7 และ หมู่ที่ 8 อย่างน้อย 3 จุดที่ถูกน้ำป่าพัดตัดเส้นทางจนขาดไม่สามารถใช้การได้ โดยพบว่าในพื้นที่นั้นมีร่องรอยของการตัดไม้ทำลายป่าบนภูเขาสูงเป็นวงกว้างหลายจุด ขณะที่น้ำในลำธารสายต่างๆ ที่ไหลลงมาจากภูเขายังคงมีสีขุ่นเข้ม และน้ำยังคงไหลแรง แต่การบินสำรวจไม่สามารถเข้าลึกไปในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักได้เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน
หลังจากนั้น ได้บินสำรวจพื้นที่หมู่บ้านในหมู่ที่ 4 บ้านท่าสูงบน ตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พบว่ากำลังพลได้เข้าพื้นที่ และได้ซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากพายุหมุนใกล้แล้วเสร็จ โดยใช้วัสดุก่อสร้างที่สนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลท่าศาลา
