นครศรีธรรมราช – จ.นครศรีธรรมราช ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว 21 อำเภอ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ประชาชนเดือดร้อนกว่า 40,000 ครัวเรือน คาดการณ์มูลค่าความเสียหาย เบื้องต้น 120 ล้านบาท
วันนี้ (24 พ.ย.) ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่นครศรีธรรมราช หลังจากการสำรวจพื้นที่พบว่า ถนนสายเลียบทางรถไฟบริเวณรอยต่อระหว่าง ต.โพธิ์เสด็จ ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง เพิ่งสร้างเสร็จได้เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา กลายเป็นกำแพงที่ขวางทางน้ำหลาก โดยตามปกตินั้นในช่วงน้ำหลากน้ำจะไหลบ่าเข้าท่วมในทุ่งโพธิ์เสด็จ และทุ่งมะม่วงสองต้น ซึ่งเป็นจุดรับน้ำที่สำคัญ โดยท่อ หรือช่องระบายน้ำบนถนนเส้นนี้พบว่ามีไม่เพียงพอ บางช่องระดับน้ำได้เอ่อพ้นไหลบ่าบนผิวการจราจร
ขณะที่ชุมชนภายในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังคงมีน้ำท่วมสูงในหลายชุมชน โดยเฉพาะชุมชนระหว่างถนนศรีธรรมโศก และถนนพัฒนาการคูขวางที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมทั้งเขตเศรษฐกิจย่านตลาดสดคูขวาง ถูกน้ำท่วมสูงเช่นเดียวกัน
ผศ.เชาวนวัศน์ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เทศบาลได้ระดมเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ โดยความร่วมมือกับกรมชลประทาน และสำนักชลประทานที่ 15 เข้าติดตั้งบริเวณคลองนครน้อย คลองคลองป่าเหล่า คลองราเมศวร์ และคลองท่าโพธิ์ ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำสายหลัก เร่งผลักดันน้ำออกไปจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช และถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ฝนทิ้งช่วงไปหลายชั่วโมงทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
ทางจังหวัด ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (อุทกภัย) แล้ว 21 อำเภอ จาก 23 อำเภอ มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำแล้ว 2 ราย ช่วงเช้าของวันเดียวกัน นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่การเกษตรของประชาชน และสิ่งสาธารณประโยชน์ ถนนสายหลักบางช่วง และถนนสายรองในชุมชนเป็นบริเวณกว้าง พื้นที่ลาดชันใกล้เชิงเขา และพื้นที่ต้นน้ำเกิดน้ำป่าไหลหลาก พื้นที่ใกล้ลำน้ำ เกิดน้ำบ่าล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ในอำเภอทุ่งสง 1 ราย และอำเภอร่อนพิบูลย์อีก 1 ราย
ส่วนภาพรวมนั้น ขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน รวมตั้งแต่เกิดสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลาก จำนวน 21 อำเภอ 127 ตำบล 760 หมู่บ้าน 120,700 คน 40,000 ครัวเรือน คาดการณ์มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 120 ล้านบาท และอยู่ระหว่างสำรวจเพิ่มเติม สำหรับพื้นที่ที่ยังไม่มีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน (อุทกภัย) มีเพียง 2 อำเภอ จาก 23 อำเภอ คือ อ.ถ้ำพรรณนา และ อ.ขนอม เท่านั้น แต่อยู่ในระดับเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์
