ผู้ว่าฯ นครศรีฯ สั่งเข้มเฝ้าระวังจุดเสี่ยง ใช้มิสเตอร์เตือนภัยให้เป็นประโยชน์

นครศรีธรรมราช - นครฯ ฝนตกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางการเริ่มสั่งการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงตลอด 24 ชม.

วันนี้ (21 พ.ย.) สภาพฝนในพื้นที่นครศรีธรรมราช ยังคงตกอย่างต่อเนื่อง การจราจรในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากติดขัดบริเวณโรงเรียน และชุมชน ส่วนสภาพพื้นที่ลำคลองหลายสายเริ่มมีปัญหากต่อการระบายน้ำ เนื่องจากวัชพืชจำนวนมากเจริญเติบโตกีดขวางการไหลของน้ำ ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ป่าเขา เช่น อำเภอนบพิตำ ลานสกา พรหมคีรี สิชล ขนอม ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนัก

นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชม.เพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม อันเกิดจากฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม สร้างความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน จึงขอให้ทางอำเภอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล ที่ราบต่ำริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากภัยธรรมชาติ ชาวเรือชาวประมงเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม เฝ้าระวัง และตรวจสอบเส้นทาง เขื่อน ฝาย อ่าง คันกั้นน้ำ และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีประชาชนใช้บริการจำนวนมาก พื้นที่เขตอุตสาหกรรม รวมทั้งพื้นที่ของเอกชน ถ้าไม่มีความมั่นคงแข็งแรงพิจารณาแล้วเป็นอันตรายให้แก้ไขโดยด่วน และจัดเจ้าหน้าที่อยู่ปฏิบัติงานติดตามตรวจสอบสถานการณ์เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และให้ใช้ประโยชน์จากมิสเตอร์เตือนภัย แจ้งข้อมูลสถานการณ์

หากเกิดสถานการณ์ขึ้น ให้ปฏิบัติตามแผนป้องกันภัยฯ ของอำเภอ และให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว และหากพื้นที่ใดมีความเสี่ยงที่จะเกิดสถานการณ์รุนแรงให้อพยพประชาชนไปในที่ปลอดภัย พร้อมรายงานสถานการณ์ และการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นให้จังหวัดฯ ทราบทุกระยะจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-7535-8440 โทรสาร 0-7535-8442

นายเจษฎา วัฒนานุรักษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ฝนเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 มีฝนตกในพื้นที่อำเภอนบพิตำ ท่าศาลา เมือง ปากพนัง เชียรใหญ่ หัวไทร ความแรงของฝนประมาณ 12-50 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ส่วนปริมาณน้ำฝนตกมากที่สุดที่อำเภอหัวไทร วัดได้ 110 มิลลิเมตร รองลงมา อำเภอเชียรใหญ่ วัดได้ 87 มิลลิเมตร