xs
xsm
sm
md
lg

สองผัวเมียมะกันตามหาน้องสาว หลังพลัดพรากสมัยสงครามเวียดนาม(ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผัวเมียชาวอเมริกัน สัญชาติเวียดนาม ตามหาน้องสาวที่ถูกลักพาตัวจากเรือกลางทะเล ขณะอพยพหนีภัยสงครามเวียดนามด้วยความหวัง แม้เวลาจะผ่านมากว่า 32 ปี

วันนี้ (19 พ.ย.) ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สงขลา นายชูเกียรติ สุวรรณรังษี ประธานสภาองค์กรเขตทวีวัฒนา อดีตหัวหน้าพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สงขลา ในฐานะผู้ประสานงานในไทยของมูลนิธิ CNCF ซึ่งเป็นมูลนิธิช่วยตามหาคนหายทั่วโลก ตั้งอยู่ในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา

ได้พา นางแฟมทรี ฮวง โฮอา อายุ 55 ปี และนายฟองลี อายุ 61 ปี ชาวอเมริกัน สัญชาติเวียดนาม ซึ่งเดินทางมาจากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เข้าขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สงขลา เพื่อให้ช่วยตามหา น.ส.แฟม นอค บิชทรี น้องสาวที่ถูกลักพาตัวในสมัยสงครามเวียดนาม พร้อมกับนำภาพถ่ายของน้องสาวมาให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็นเบาะแสในการตามหา

 
นางแฟมทรี ฮวง โฮอา เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2524 น้องสาวได้อพยพหนีภัยสงครามมากับญาติ และเพื่อนชาวเวียดนามรวม 43 คน โดยเดินทางมากับเรือ แต่ปรากฏว่า ระหว่างที่ล่องเรืออยู่กลางทะเล น้องสาวกับเพื่อนผู้หญิงรวม 3 คน ได้ถูกลักพาตัวไป ส่วนที่เหลืออีก 40 คน ได้ไปขึ้นฝั่งที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งขณะนั้นน้องสาวอายุ 18 ปี รวมเวลาที่พลัดพรากจากกันกว่า 32 ปี

 
ซึ่งหากน้องสาวยังมีชีวิตอยู่ขณะนี้จะมีอายุ 50 ปี และเบาะแสล่าสุดจากคำบอกเล่าของหนึ่งในหญิงสาวที่ถูกลักพาตัว และรอดมาได้บอกว่า น้องสาวน่าจะอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ช่วยตามหา เพราะยังมีความหวังเสมอว่าน้องสาวน่าจะยังมีชีวิตอยู่ ที่สำคัญน้องสาวหายไปตอนอายุ 18 ปี จึงน่าจะจดจำเรื่องราวต่างๆ รวมทั้งตนได้ ซึ่งตนพยายามตามหามาตลอดจากภาพถ่ายที่หลงเหลืออยู่แม้จะเป็นเรื่องยากก็ตาม

 
ด้าน นายชูเกียรติ สุวรรณรังษี ในฐานะผู้ประสานงานในไทยของมูลนิธิ CNCF เปิดเผยว่า หากใครทราบเบาะแสของ น.ส.แฟม นอค บิชทรี ให้แจ้งมาที่ตนที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-1986-1497 หรือที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้โดยตรง ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ตนมีอยู่ยังมีชาวอเมริกันสัญชาติเวียดนามอีกกว่า 100 ราย

 
ที่ต้องการตามหาญาติที่พลัดพรากจากกันในสมัยสงครามเวียดนาม และยังไม่ทราบชะตากรรมซึ่งทุกคนยังมีความหวัง และหลายครั้งที่การตามหาประสบความสำเร็จ เช่น ในสมัยที่ตนเคยดำรงตำแหน่งพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ช่วยตามหาลูกชายของชาวอเมริกัน สัญชาติเวียดนาม 2 ราย ที่พลัดพรากจากกันขณะล่องเรือในทะเล

ซึ่งขณะนั้นลูกชายของทั้ง 2 คนอายุแค่เพียง 3 เดือน โดยพบที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี 1 คน และพบที่ จ.สงขลา 1 คน กระทั่งกลายเป็นข่าวดังในสหรัฐอเมริกา ทำให้ชาวอเมริกัน สัญชาติเวียดนาม ที่ต้องพลัดพรากจากลูก หรือญาติได้แจ้งข้อมูลมายังมูลนิธิ CNCF จำนวนมากเพื่อให้ช่วยตามหา ซึ่งที่ผ่านมา ได้พยายามออกตามหาทั้งในประเทศไทย มาเลเซีย และกัมพูชา ตามเบาะแสของผู้สูญหายแต่ละรายแม้จะเป็นเรื่องยากก็ตาม
 
 

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น