ตรัง - พบซากโลมาหลังโหนก เพศผู้ อายุ 2 ปี หนัก 40 กก. ลอยตายกลางทะเลอำเภอหาดสำราญ และมีรอยแผลปลายหาง เป็นตัวที่ 14 ในรอบปี 2556 คาดหลงเข้าไปติดอวนชาวประมง
วันที่ (15 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายตะวัน ทุ่ยอ้น ประธานกลุ่มอนุรักษ์โลมาบ้านตะเสะ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ว่า ได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านว่า พบซากโลมาลอยตายอยู่กลางอ่าวตะเสะ ห่างจากชายฝั่งประมาณ 2 ไมล์ทะเล จึงได้นำเรือและชาวบ้านออกไปตรวจสอบ และนำซากเข้ามายังชายฝั่ง พร้อมแจ้งไปยังผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรและชายฝั่งที่ 6 จังหวัดตรัง เพื่อเข้ามาตรวจสอบสาเหตุการตายที่แท้จริง พร้อมกับแจ้งบันทึกประจำวันที่ สภ.ปะเหลียน ต่อไป
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นโลมาหลังโหนก เพศผู้ อายุประมาณ 2 ปี น้ำหนักประมาณ 40 กิโลกรัม คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 3 วัน เนื่องจากมีไส้ทะลักออกมา ส่วนบริเวณหางก็มีร่องรอยบาดแผลลึก คาดว่าโลมาหลังโหนกตัวนี้คงว่ายน้ำเข้าไปจับสัตว์น้ำกินในอวนของชาวประมงพื้นบ้าน แล้วเกิดไปติดตาข่ายเข้าจึงทำให้ขาดอากาศหายใจ และตายลง ซึ่งนับเป็นโลมาตัวที่ 14 ที่ตายลงในทะเลตรัง รอบปี 2556 ซึ่งปัจจุบัน มีโลมาหลังโหนกเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่หาดสำราญเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ตายเพราะเกิดจากการติดอวน
ทางด้าน นายตะวัน ทุ่ยอ้น ประธานกลุ่มอนุรักษ์โลมาบ้านตะเสะ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่บริเวณทะเลหาดสำราญมีแหล่งอาหารของสัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์ จึงทำให้มีโลมาเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ชาวประมงพื้นบ้านก็ได้นำเครื่องมือประมงไปดักจับสัตว์น้ำในพื้นที่ดังกล่าวด้วย จึงทำให้โลมาได้พลัดหลงเข้าไปในอุปกรณ์จับสัตว์น้ำต้องตายลงไปแล้วจำนวนหลายตัว ทั้งๆ ที่บริเวณตำบลตะเสะ ขณะนี้ได้รับการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชมโลมา และเป็นแหล่งอนุรักษ์โลมาของจังหวัดตรัง
