ระนอง - สมาพันธ์สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูมิภาคทั่วประเทศ เตรียมพร้อมรับเปิดอาเซียน
วันนี้ (7 พ.ย.) สมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวฯ จังหวัดระนอง อบจ.ระนอง ททท.สำนักงานชุมพร สนง.การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระนอง สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ระนอง และภาคเอกชนใน จ.ระนอง จัดโครงการสัมมนาผู้ประกอบการท่องเที่ยวเพื่อเตรียมพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หรือ AEC ขึ้น ระหว่างวันที่ 6-8 พ.ย.2556 ที่โรงแรมทินิดี จ.ระนอง ภายใต้หัวข้อ “การเพิ่มพูนศักยภาพการแข่งขันธุรกิจท่องเที่ยวเชิงรุกสู่ AEC ท่องเที่ยว โดยมีว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานพิธีเปิด
เพื่อสร้างความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในภูมิภาคทั่วประเทศ ในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 อีกทั้งเพื่อระดมความคิดเห็นของกลุ่มผู้นำการท่องเที่ยวจากภาครัฐ และภาคเอกชน และจัดทำแนวทางในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาค และสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวรวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง
นายศักดา พิริยะกิจไพบูลย์ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันการท่องเที่ยวได้ยกระดับเป็นธุรกิจระดับอุตสาหกรรม เนื่องจากสามารถสร้างรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศตั้งแต่ พ.ศ.2525 เป็นต้นมา ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นรายได้อันดับ 1 เมื่อเทียบกับรายได้สินค้าประเภทอื่นๆ ที่สำคัญ รายได้จากการท่องเที่ยวเป็นรายได้ที่กระจายไปสู่ประชากรอย่างกว้างขวาง สร้างงานสร้างอาชีพมากมาย อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ประกอบทั้งสินค้า และบริการ เช่น สถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม ภัตตาคาร บริษัทนำเที่ยว เป็นต้น จากข้อมูลกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าในปี 2555 จำนวนนักท่องเที่ยวนานาชาติทั่วโลกที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย จำนวน 14 ล้านคน และได้เพิ่มเป็น 17 ล้านคน ในปี 2556
จากการจัดตั้งกลุ่มประเทศอาเซียน จำนวน 10 ประเทศ เป็นกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนาภูมิภาค ในด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม ซึ่งผลของการร่วมมือกันในครั้งนี้ก่อให้เกิดตลาดการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ รวมถึงเกิดความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว เส้นทางการท่องเที่ยว การบริการตลอดจนความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งผลลัพธ์ดังกล่าวสามารถนำมาบริหารจัดการเป็นสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย จำเป็นที่ผู้ประกอบการ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านการท่องเที่ยวจะต้องเร่งเตรียมความพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งโอกาสและผลกระทบต่างๆ