ศูนย์ข่าวภาคใต้ - เกิดอุบัติเหตุรถเก๋งพลัดตกจากแพขนานยนต์ข้ามฟากทะเลสาบสงขลา จากฝั่ง อ.สิงหนคร ไปยังฝั่ง อ.เมืองสงขลา เนื่องจากแพเคลื่อนออกจากฝั่งกะทันหัน โชคดีชาวบ้านได้ช่วย 3 ชีวิต ทั้งผู้ใหญ่ และเด็กออกมาได้อย่างปลอดภัย ก่อนที่รถจะจมทะเลสาบสงขลา
เมื่อคืนวานนี้ (3 พ.ย.) เกิดเหตุอุบัติเหตุรถเก๋งยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเฟียสต้า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กว 8304 สงขลา ตกจากแพขนานยนต์ขณะนำรถลงแพขนานยนต์ข้ามฟากทะเลสาบสงขลา จากฝั่ง อ.สิงหนคร ไปยังฝั่ง อ.เมืองสงขลา ทำให้รถตกลงไปในทะเลสาบสงขลา แต่โชคดีที่ชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุช่วยผู้ที่นั่งมาในรถเก๋ง 3 คน ออกมาได้ทัน ก่อนที่รถจะจมหายไปทั้งคัน ประกอบด้วย นางณธษา บุญทองวิอังกูร อายุ 36 ปี คนขับ ด.ญ.ชาช่า บุญทองวิอังกูร อายุ 6 ขวบ และนายประกอบ บุญทองวิอังกูร อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นพ่อของผู้ขับ ทั้ง 3 คนปลอดภัยเพียงแต่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นางณธษา เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ระหว่างที่กำลังขับรถลงแพขนานยนต์เพื่อพาพ่อไปหาหมอที่ อ.เมืองสงขลา โดยล้อหน้าอยู่บนแพส่วนล้อหลังยังอยู่บนท่า ปรากฏว่า แพได้เคลื่อนออกจากฝั่งกะทันหัน ทำให้รถเก๋งของตนหัวทิ่มตกลงไปในทะเลสาบสงขลา แม้ว่าพนักงานประจำแพจะพยายามตะโกนเรียก และส่งสัญญาณไปยังคนขับที่อยู่ด้านบนแต่ไม่ได้ยิน แต่โชคดีที่ขณะเกิดเหตุได้เปิดกระจกรถลง และมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ลงไปช่วยพวกตนทั้ง 3 คนออกจากตัวรถได้ทัน ก่อนที่รถจะจมหายไปทั้งคัน และไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
โดยหลังเกิดเหตุ นายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกับระบุถึงสาเหตุที่ทำให้รถพลัดตกจากแพขนานยนต์ว่า เนื่องจากในช่วงเวลาเกิดเหตุกระแสน้ำในทะเลสาบสงขลาลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ทำให้แพเคลื่อนตัวออกจากฝั่งกะทันหัน และมีรถที่กำลังขึ้นแพแต่อยู่กึ่งกลางระหว่างตัวแพกับท่าแพ ทำให้ตกลงไปในทะเลสาบสงขลา ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทาง อบจ.สงขลา จะรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด รวมทั้งย้ำให้พนักงานขับแพขนานยนต์เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเช้า และช่วงค่ำซึ่งจะมีรถใช้บริการหนาแน่น
