xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจ “นิพนธ์” ยันยึด “อบจ.สีขาว” เร่งแสดงฝีมือบริหารสงขลาภายใน 4 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“นิพนธ์ บุญญามณี” นายก อบจ.สงขลา คนใหม่ เครื่องฟิตเร่งเดินหน้าทำหน้าที่ ประเดิมด้วยการสำรวจทิศทางน้ำเตรียมรับมือฤดูน้ำหลาก เผยมีเวลาอยู่ในตำแหน่งเพียง 4 ปี ต้องเร่งดำเนินการทุกนโยบายตามที่พูดไว้ ยันยึดหลัก “อบจ.สีขาว” โปร่งใส เคารพกฎหมาย และตรวจสอบได้

นายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา คนใหม่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังจากนั่งเก้าอี้นายก อบจ.สงขลา อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ประเด็นหลักที่คิดว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนในขณะนี้ คือ การรีบเร่งเพื่อตรวจสอบ และส่งฝ่ายช่างไปสำรวจแม่น้ำ คู คลองต่างๆ เพื่อรับมือฤดูน้ำหลาก โดยเฉพาะเรื่องทิศทางการไหลของน้ำในอดีตว่าน้ำมาจากทิศทางไหนบ้าง

“เราต้องไปดูว่ามีสิ่งกีดขวางอยู่ในลำน้ำหรือไม่ เพื่อจะได้ระบายน้ำให้ลงสู่ทะเลสาบ หรือลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด หรือว่าไหลสู่ที่พักของน้ำ อย่าให้มีสิ่งกีดขวางลำน้ำเหล่านั้น เพราะถ้ามีสิ่งกีดขวางจะทำให้เกิดน้ำเอ่อท่วมขึ้นได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเร่งทำ เพราะฤดูมรสุมกำลังใกล้กำลังเข้ามาถึงในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม เป็นเรื่องที่เร่งด่วน เพราะมีเวลาแค่เดือนกว่าๆ ในการเตรียมการเรื่องนี้”

นอกจากนี้ นายนิพนธ์ยังกล่าวอีกว่า เรื่องเร่งด่วนที่อยากดำเนินการทันทีคือ การแก้ปัญหาจราจรในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เป็นนโยบายใหญ่ที่ต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ มีการออกแบบ อาจจะใช้เวลาในการแก้ปัญหาระยะยาว ส่วนระยะสั้นต้องเข้มงวดในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย และกล้อง CCTV ที่มีอยู่มากพอสมควร

“ต้องใช้กล้อง CCTV ให้เป็นประโยชน์ เข้มงวดเรื่องวินัยจราจร การใช้ฟุตปาธ หรือพื้นที่ถนนในการจอดรถ หรือจอดรถในทางร่วมทางแยก ทำให้พื้นที่จารจรลดน้อยลง ทำให้การจราจรเป็นคอขวด ติดขัด อย่างนี้ต้องมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้นเพื่อให้ทุกคนไม่เห็นประโยชน์ส่วนตัว แต่ให้แก่ประโยชน์ส่วนรวมในการใช้ถนน เพราะฉะนั้น เรื่องระเบียบวินัยจราจรต้องเคร่งครัดมากขึ้น”

ส่วนเรื่องการดูแลผู้สูงอายุ นายก อบจ.สงขลา กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนเช่นกัน การแก้ปัญหาจราจรข้ามฟาก จัดระบบแพข้ามฟากระหว่างตัวเมืองสิงหนคร กับเมืองสงขลาใหม่ ก็ต้องถือว่าเร่งด่วน เฉพาะฉะนั้นนี่คือสิ่งที่ตั้งใจจะดำเนินการให้เรียบร้อย รวมตลอดไปถึงเรื่องอื่นๆ ที่ได้แถลงเอาไว้อีกหลายประเด็น เป็นเรื่องที่ต้องทำทันที ซึ่งขณะนี้ก็ได้เชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบมาพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ

“อย่างไรก็ตาม ทั้ง 35 นโยบายที่ได้ให้ไว้แก่ประชาชนชาวจังหวัดสงขลาในช่วงหาเสียงนั้น ก็จะดำเนินการตามที่ให้ไว้ทั้งหมด อะไรที่กำหนดระยะเวลาไว้ว่าต้องทำภายใน 4 ปี ก็ต้องเร่งรัด ตั้งแต่จัดงบประมาณปีนี้ จนถึงปี 2560 ต้องครบถ้วน เพราะระยะเวลาการเป็นนักการเมืองมันมีเทอมอยู่แล้ว ยังไงก็ไม่เกิน 4 ปี เพราะฉะนั้น ในวาระหนึ่งๆ เราต้องใช้เงื่อนเวลามาเป็นตัวกำหนด สิ่งเหล่านี้ยืนยันว่าอะไรที่ประกาศไปแล้วว่าจะดำเนินการก็ต้องเร่งรัดดำเนินการทั้งหมด”

นายก อบจ.สงขลา ยังได้พูดถึง “อบจ.สีขาว” ตามหลักวิชาการ คือ หลักธรรมาภิบาล ถ้าใช้คำว่า “หลักธรรมาภิบาล” คนมองแล้วยากที่จะเข้าใจ แต่ถ้าบอกว่าสีขาว ประชาชนโดยทั่วไปก็จะเข้าใจถึงความบริสุทธิ์ เช่น โครงการถนนสีขาว โรงเรียนสีขาว โรงงานสีขาว ที่เราใช้กันอยู่ในขณะนี้ อย่างน้อยมีความรู้สึกว่าไม่มั่วกับยาเสพติด เพราะฉะนั้นถ้าในเรื่องของการจัดการ เราเอาหลักธรรมาภิบาลมาใช้

“หลักธรรมาภิบาล มีทั้งหมด 6 ข้อ คือ ความโปร่งใส เป็นสิ่งที่สามารถตรวจสอบได้ ต้องเคารพกฎหมาย ความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณ การมีส่วนร่วมของประชาชน นี่คือ อบจ.สีขาว ที่เราเรียกว่าหลักธรรมาภิบาล แต่ถ้าเราพูดในเรื่องหลักธรรมาภิบาลกับชาวบ้านมันดูสูงเกินไป เราต้องยืนยันว่าหลักธรรมาภิบาลนั้นทุกองค์กรต้องใช้ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ เพราะฉะนั้นเราต้องทำสิ่งเหล่านี้ให้เกิด โดยที่เราต้องเคร่งครัด การมีส่วนร่วมของประชาชนก็ดี การตรวจสอบโครงการต่างๆ ก็ดี การที่จะทำอะไรให้โปร่งใส เคารพกติกากฎหมาย ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้เข้าใจว่านี่คือความหมายของ อบจ.สีขาว”

ส่วนเรื่องความห่วงใยต่อพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง และสวนปาล์มนั้น นายก อบจ.สงขลา กล่าวว่า เรื่องนี้แม้ว่าจะไม่เป็นหน้าที่หลักของ อบจ. โดยตรง เพราะว่าเรื่องราคายางพาราก็ขึ้นอยู่กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ องค์การสวนยางก็ขึ้นอยู่กับกระทรวงเกษตร เรื่องการทำตลาดก็ขึ้นอยู่กับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งทั้ง 2 กระทรวงต้องมีความใกล้ชิด แม้กระทั่งเรื่องการที่จับมือกับผู้ผลิตยางด้วยกัน ไม่ว่าประเทศอินโดนีเซีย หรือประเทศต่างๆ ที่ร่วมกันเป็นผู้ผลิตรายใหญ่มากขึ้น ต้องพูดคุยกัน หารือกันว่าทำอย่างไรให้ราคายางไม่ขายตัดราคากัน

“การรวมตัวกันของผู้ผลิตยางระดับประเทศที่ผลิตยางพารา อันนี้จำเป็น ถ้าเราทำคนเดียวเราแก้ลำบาก วันนี้คนที่จะมาแก้ปัญหาเรื่องยาง ต้องทำในเชิงหลักสากลเป็นด้วย ทำในเชิงการตลาดเป็นด้วย ต้องรู้จิตวิทยาของผู้ใช้ ผู้บริโภคยาง ไม่ว่าจะเป็นยางแท่ง หรือน้ำยางข้น แต่ถ้า อบจ. เข้าไปมีส่วนร่วม นโยบายของตนเองก็คือ ลดต้นทุการผลิต สิ่งไหนที่สามารถเข้าไปลดต้นทุนได้ เช่น การใช้ปุ๋ยชีวภาพ ทำบ่อขยะ เอาขยะแห้งไปทำเชื้อเพลิง เอาขยะเปียกมาทำเป็นปุ๋ยหมัก และใช้หรือแจกจ่ายในการลดต้นทุนให้เกษตรกรในอนาคต หรือนโยบายแปรรูปยางพารา เข้าไปช่วยด้วยการส่งเสริม และให้ความรู้แก่เกษตรกรชาวสวนยางได้ หรือมีการรวมยาง ที่เป็นกลุ่มยางสหกรณ์ สามารถแปรรูปได้ และรู้จักการรวมตัวของกลุ่มเกษตรกรยางพาราให้เข้มแข็ง สามารถขายยางโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ก็จะสามารถยกระดับยางพาราให้สูงขึ้นได้”

นายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา ยังฝากถึงพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง ว่า การรวมตัวกันเรียกร้องของพี่น้องเกษตรการชาวสวนยาง มีความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกัน จะทำให้เราประหยัดเรื่องราคา เรื่องพ่อค้าคนกลางที่จะมาเป็นคนกำหนดราคาได้ ก็ถือเป็นอีกส่วนหนึ่ง ส่วนที่ 2 ก็คือ เราต้องพยายามลดต้นทุนในการผลิต ส่วนที่ 3 ถ้ารัฐบาลคิดว่าเกษตรกรทุกกลุ่มมีความเสมอภาคกัน ถ้ารัฐบาลช่วยชาวนาได้ ไม่มีเหตุผลอื่นที่รัฐบาลจะไม่ช่วยชาวสวนยาง วันนี้เราขาดทุนเรื่องการจำนำข้าวหลายแสนล้านบาท

“ในส่วนของยางพาราไม่ใช่แค่พืชที่จะปลูกในพื้นที่ภาคใต้อีกต่อไป สามารถปลูกได้ทุกภูมิภาคของประเทศ ถ้ารัฐบาลคิดว่าไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง รัฐบาลต้องพร้อมที่จะดูแลพี่น้องเกษตรการชาวสวนยาง เงินที่ใช้ในการจำนำข้าวหลายแสนล้าน เมื่อเปรียบเทียบกับยางพาราที่จะใช้แค่ 2-3 หมื่นล้านบาท มันห่างกันเยอะมาก เพราะฉะนั้นรัฐบาลจะต้องทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ และงบประมาณมาดูแลพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง สวนปาล์มให้มากกว่าที่เป็นอยู่”
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น