xs
xsm
sm
md
lg

ชาวไทยมุสลิม จชต.-มาเลย์ ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา ฉลอง “ฮารีรายออิฎิ้ลอัฎฮา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นราธิวาส - แรงงานไทยในประเทศมาเลเซีย รวมถึงคนไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลวันฮารีรายออิฎิ้ลอัฎฮา ส่งผลให้การขนส่งทั้งรถไฟ และรถโดยสารประจำทางคึกคักเนืองแน่น จนท.รปภ.ความปลอดภัยเข้มงวด

วันนี้ (14 ต.ค.) แรงงานไทยในประเทศมาเลเซีย เริ่มเดินทางออกจากประเทศมาเลเซียเพื่อกลับเข้ามาร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลวันฮารีรายออิฎิ้ลอัฎฮา ร่วมกับครอบครัวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลให้บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ศูนย์ราชการชายแดน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาสเนืองแน่นไปด้วยประชาชนที่มาประทับตราหนังสือเดินทางเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา

ส่วนที่สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ประชาชนในพื้นที่พร้อมครอบครัวได้มารอโดยสารรถไฟเพื่อเดินทางกลับบ้านในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลให้รถไฟขบวนท้องถิ่นมีประชาชนมารอใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทั้งเที่ยวไปและกลับ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยรถไฟ ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคล และสัมภาระ รวมทั้งการรักษาความปลอดภัยบนขบวนรถไฟ และเส้นทางการเดินรถ เพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับไปร่วมเทศกาลสำคัญทางศาสนาพร้อมหน้าครอบครัวโดยสวัสดิภาพ

ขณะที่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก รถตู้โดยสารที่ให้บริการปลายทาง อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มีประชาชนมาใช้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้ผู้ให้บริการต้องมีการเพิ่มจำนวนรถเพื่อให้เพียงพอสำหรับบริการผู้โดยสาร

สำหรับเทศกาลวันฮารีรายออิฎิ้ลอัฎฮา ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 สำนักจุฬาราชการมนตรีได้กำหนดว่าตรงกับวันที่ 15 ตุลาคม 2556 อีกทั้งคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้วันฮารีรายออิฎิ้ลอัฎฮาเป็นหนึ่งในวันหยุดราชการประจำปีในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จ.นราธิวาส จ.ยะลา จ.ปัตตานี และ จ.สตูล อีกทั้งภายหลังได้ประกาศวันหยุดราชการเพิ่มในวันดังกล่าว ในพื้นที่ จ.สงขลาด้วย จึงทำให้ประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ใช้วันหยุดในวันสำคัญทางศาสนาไปร่วมประกอบศาสนกิจ และทำพิธีทางศาสนากับครอบครัวได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ถือเป็นวันลา ซึ่งสร้างความยินดีให้แก่ประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก เพราะมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความเข้าใจ และเห็นความสำคัญของวันที่เกี่ยวข้องกับศาสนาของศาสนิกต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างดี


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น