ยะลา - ผู้การยะลาสั่งคุมเข้มเฝ้าระวังคนร้ายก่อเหตุในวันเชิงสัญลักษณ์ของขบวนการก่อความไม่สงบ พร้อมเผยคืบหน้าระเบิดตู้เอทีเอ็ม 12 จุดยะลา พบคนร้ายปฏิบัติการ 16 คนใน 3 อำเภอ นำภาพจาก CCTV เทียบกลุ่มคนร้าย ระบุรู้ตัวแล้ว
จากกรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายจุดที่บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รวมทั้ง 4 อำเภอ ของ จ.สงขลา รวมจำนวนหลายสิบแห่ง เป็นเหตุให้ตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 05.15 น. ของวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (11 ต.ค.) เมื่อเวลา 08.45 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พล.ต.ต.ทรงเกียรติ์ วาทะกุล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดว่า หลังจากที่ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องจากทั้ง 3 อำเภอที่เกิดเหตุ รวมทั้งชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นำวัตถุพยานหลักฐานที่พบมาวิเคราะห์ว่าทั้ง 3 พื้นที่มีความเชื่อมโยงกันอย่างไร การประชุมเมื่อวานนี้มุ่งเน้นเชื่อมโยงพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด โดยมุ่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด และตรวจสอบวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า กลุ่มคนร้ายลงมือก่อเหตุ 12 จุด ในพื้นที่ 3 อำเภอ มีผู้ก่อเหตุรวม 16 คน โดยใช้รถจักรยานยนต์ รวม 10 คัน แบ่งเป็นพื้นที่เมือง 6 จุด คนร้าย 6 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 5 คัน ส่วนพื้นที่ อ.ยะหา 4 จุด คนร้าย 8 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 4 คัน พื้นที่ อ.บันนังสตา 2 จุด คนร้าย 2 คน รถจักรยานยนต์ 1 คัน
“ส่วนวัตถุพยานในที่เกิดเหตุเราได้ประมวลวิเคราะห์แล้วทั้ง 12 จุด พบว่า รูปแบบระเบิดเป็นชนิดเดียวกัน และการจุดชนวนระเบิดเป็นการจุดชนวนระเบิดด้วยการตั้งเวลาในโทรศัพท์ จึงเชื่อว่าการก่อเหตุในครั้งนี้เป็นกลุ่มคนร้ายที่ได้รับการสั่งการจากกลุ่มคนร้ายกลุ่มเดียวกัน ส่วนภาพวงจรปิดที่ได้นั้นก็ได้นำมาตรวจสอบเทียบเคียงกับภาพของกลุ่มคนร้ายที่เป็นเป้าหมายแล้ว โดยต้องการเชื่อมโยงว่าเป็นกลุ่มคนร้ายในพื้นที่กลุ่มใด ซึ่งในขณะนี้พอจะทราบกลุ่มแล้วว่า เป็นฝีมือของกลุ่มใด อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนการเฝ้าระวังการก่อเหตุในวันเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มขบวนการนั้น ได้มีการเน้นย้ำไปยัง 17 สถานีตำรวจในสังกัดภูธรจังหวัดยะลา ให้อุดช่องโหว่ในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ให้มีการประสานงานกับหน่วยกำลังในพื้นที่เพื่อที่จะปิดช่องว่างในระยะเวลาที่คนร้ายอาจจะก่อเหตุได้” ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าว
จากกรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายจุดที่บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รวมทั้ง 4 อำเภอ ของ จ.สงขลา รวมจำนวนหลายสิบแห่ง เป็นเหตุให้ตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 05.15 น. ของวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (11 ต.ค.) เมื่อเวลา 08.45 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พล.ต.ต.ทรงเกียรติ์ วาทะกุล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดว่า หลังจากที่ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องจากทั้ง 3 อำเภอที่เกิดเหตุ รวมทั้งชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นำวัตถุพยานหลักฐานที่พบมาวิเคราะห์ว่าทั้ง 3 พื้นที่มีความเชื่อมโยงกันอย่างไร การประชุมเมื่อวานนี้มุ่งเน้นเชื่อมโยงพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด โดยมุ่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด และตรวจสอบวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า กลุ่มคนร้ายลงมือก่อเหตุ 12 จุด ในพื้นที่ 3 อำเภอ มีผู้ก่อเหตุรวม 16 คน โดยใช้รถจักรยานยนต์ รวม 10 คัน แบ่งเป็นพื้นที่เมือง 6 จุด คนร้าย 6 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 5 คัน ส่วนพื้นที่ อ.ยะหา 4 จุด คนร้าย 8 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 4 คัน พื้นที่ อ.บันนังสตา 2 จุด คนร้าย 2 คน รถจักรยานยนต์ 1 คัน
“ส่วนวัตถุพยานในที่เกิดเหตุเราได้ประมวลวิเคราะห์แล้วทั้ง 12 จุด พบว่า รูปแบบระเบิดเป็นชนิดเดียวกัน และการจุดชนวนระเบิดเป็นการจุดชนวนระเบิดด้วยการตั้งเวลาในโทรศัพท์ จึงเชื่อว่าการก่อเหตุในครั้งนี้เป็นกลุ่มคนร้ายที่ได้รับการสั่งการจากกลุ่มคนร้ายกลุ่มเดียวกัน ส่วนภาพวงจรปิดที่ได้นั้นก็ได้นำมาตรวจสอบเทียบเคียงกับภาพของกลุ่มคนร้ายที่เป็นเป้าหมายแล้ว โดยต้องการเชื่อมโยงว่าเป็นกลุ่มคนร้ายในพื้นที่กลุ่มใด ซึ่งในขณะนี้พอจะทราบกลุ่มแล้วว่า เป็นฝีมือของกลุ่มใด อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนการเฝ้าระวังการก่อเหตุในวันเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มขบวนการนั้น ได้มีการเน้นย้ำไปยัง 17 สถานีตำรวจในสังกัดภูธรจังหวัดยะลา ให้อุดช่องโหว่ในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ให้มีการประสานงานกับหน่วยกำลังในพื้นที่เพื่อที่จะปิดช่องว่างในระยะเวลาที่คนร้ายอาจจะก่อเหตุได้” ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าว