ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – องคมนตรีมอบทุนการศึกษา และปฐมนิเทศเยาวชนในโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 20 ก่อนออกเดินทางไปใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง
วันนี้ (5 ต.ค.) ที่สวนประวัติศาสตร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และประธานมูลนิธิรัฐบุรุษ เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ประจำปี 2556 และปฐมนิเทศเด็กและเยาวชนในโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 20 จำนวน 240 คน จาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนออกเดินทางไปใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง
สำหรับโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” เป็นโครงการที่เกิดจากการดำริของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองค์มนตรี และรัฐบุรุษ ซึ่งมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มูลนิธิรักเมืองไท และมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมนำเยาวชนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียงซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม เพื่อเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ และสามารถเชื่อมความสัมพันธ์เป็นเครือข่ายครอบครัวอันจะนำไปสู่ความสมานฉันท์ในสังคมได้
โดยรุ่นนี้ เป็นรุ่นที่ 20 มีเยาวชนมุสลิมจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จ.สตูล สงขลา นราธิวาส ปัตตานี และยะลา เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 240 คน ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวอุปถัมภ์ และสามารถเชื่อมความสัมพันธ์เป็นเครือข่ายครอบครัวที่เปรียบเสมือนญาติในอนาคตได้ ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้ดำเนินการมาแล้ว 19 รุ่น ซึ่งทุกรุ่นที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และประธานมูลนิธิรัฐบุรุษ กล่าวให้โอวาทแก่เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ว่า เยาวชนจะต้องเตรียมความพร้อมสำหรับตนเองให้มากที่สุด ทั้งในเรื่องการปรับตัวเข้ากับครอบครัวอุปถัมภ์ กิริยามารยาท การแต่งกาย ฯลฯ ขอให้เยาวชนทุกคนมีความตั้งใจที่จะเรียนรู้ถึงความเหมือน และความต่างทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต การอยู่ร่วมกันได้ด้วยความสามัคคี และความสันติสุข เพื่อที่จะได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณค่ายิ่งจากครอบครัวอุปถัมภ์เหล่านั้น ให้เยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามได้นำมาพัฒนาแนวคิดของตนเองให้สามารถปฏิบัติตนเป็นผู้นำที่ดีของชุมชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ต่อไป