ชาวบ้านทับปริกจี้รัฐตรวจสอบหลัง “นายทุน” ฮุบป่าเขาพนมเบญจา

กระบี่ - ชาวบ้าน ม.5 ต.ทับปริก วอนภาครัฐเร่งตรวจสอบกรณีนายทุนนำรถแบ็กโฮเข้าบุกรุกพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาพนมเบญจา พร้อมปรับสภาพหน้าดินเนื้อที่กว่า 200 ไร่ และเตรียมปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน ด้านชาวบ้านหวั่นอนาคตอาจไม่มีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์

วันนี้ (24 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีนายทุนนำรถแบ็กโฮเข้าบุกรุกพื้นที่แปลงสวนป่าเดิม ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาพนมเบญจา ม.5 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบพื้นที่ที่ได้รับการร้องเรียนอยู่ติดถนนสายทับปริก-ห้วยโต้ ด้านหลังเป็นเนินเขาสูงอยู่ติดเทือกเขาพนมเบญจา เบื้องต้นมีการนำรถแบ็กโฮไถปรับพื้นที่จนเหี้ยนเตียน จนมีเนื้อที่รวมประมาณ 200 ไร่ ซึ่งบริเวณโดยรอบมีการปลูกต้นยางพรา และปาล์มน้ำมันจำนวนมาก

ชาวบ้านรายหนึ่งเปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวมีนายทุนในพื้นที่เป็นผู้ครอบครองอยู่ โดยมีเอกสารสิทธิถือครองอยู่ส่วนหนึ่งตรงบริเวณที่ติดถนนด้านหน้า เนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ ส่วนด้านหลังที่ติดเทือกเขาพนมเบญจา เนื้อที่กว่า 100 ไร่ เดิมเป็นแปลงส่วนป่าเดิม แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นป่าเสื่อมโทรมไปแล้ว ซึ่งมีต้นกระถินณรงค์ขึ้นให้เห็นอยู่ประปราย เนื่องจากบางส่วนถูกทำลายไปแล้ว ทำให้เป็นที่ต้องการของกลุ่มนายทุนเข้าฮุบพื้นที่เพื่อครอบครองปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน

ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องไปยังหน่วยงานราชการที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องรีบเข้ามาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน เพื่อให้ป่าผืนนี้จะได้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์ไว้ให้ลูกหลานได้เห็น และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป