ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบตอไม้กฤษณาที่ถูกลักลอบตัด พบนอกจากลักลอบตัดไม้แล้ว ยังมีการแผ้วถางป่าอีกด้วย เผยไม้กฤษณาที่โค่นลงมาทั้งหมดไม่มีแกนทำหัวเชื้อน้ำหอม พร้อมเฝ้าระวังอีกกว่า 100 ต้น ที่อาจถูกลักลอบตัดอีก
วันนี้ (22 ส.ค.) นายเชวง ไชยหลาก ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่ไม้กฤษณาถูกลักลอบตัดในเขตสวนป่าบางขนุน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ภายหลังได้เป็นประธาน และปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สังกัดสำนักบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้เขต 12 สาขากระบี่ ตามยุทธการป้องกันแลปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ในท้องที่จังหวัดภูเก็ต
จากการตรวจสอบจุดแรกที่มีเส้นทางห่างจากที่ทำการสวนป่าบางขนุนประมาณ 500 เมตร พบว่า มีตอไม้กฤษณาจำนวนกว่า 5 ต้น ถูกตัดทิ้งไว้ ถัดไปห่างจากจุดดังกล่าวประมาณ 300 เมตร เส้นทางเข้าไปในสวนป่าฯ พบพื้นที่แผ้วถาง 2 แปลง เนื้อที่กว่า 22 ไร่เศษ ทางเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ได้มีการนำป้ายขนาดใหญ่เข้ามาปักเพื่อเป็นการแสดงว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของสวนป่า และอยู่ระหว่างการดำเนินคดีเพื่อหาผู้กระทำผิด นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการปักหลักเขตเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ไม่ปรากฏว่ามีใครมาแสดงตัว
นายเชวง กล่าวว่า ภายหลังจากที่มีข่าวการลักลอบตัดไม้กฤษณาในสวนป่าบางขนุน ทางกรมป่าไม้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงการทำงานของหัวหน้าสวนป่าบางขนุนว่า หลังจากที่ทราบเรื่องนี้ได้มีการเข้าไปตรวจสอบ และขอกำลังเสริมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าไปตรวจสอบหรือไม่อย่างไร เพราะที่สวนป่าบางขนุนมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้อยู่เพียง 1-2 ท่านเท่านั้น ในขณะที่พื้นที่สวนป่าฯ มีเนื้อที่กว้างกว่า 5,000 ไร่ และจากการตรวจสอบพบว่าไม้กฤษณาดังกล่าวเป็นไม้เก่าที่ตัดโค่นมานานแล้ว และบางต้นเพิ่งโค่นลงมา ไม่ได้เป็นไม้กฤษณาเพื่อการค้า เนื่องจากไม้กฤษณาทั้งหมดที่ถูกลักลอบตัดไม่มีแกนที่คนลักลอบต้องการนำไปขายในการผลิตเป็นหัวเชื้อน้ำหอมแต่อย่างใด และไม้ที่โค่นนั้นไม่ใช่ไม่กฤษณาทั้งหมด แต่เป็นไม้ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันเท่านั้น หรือที่คนทางภาคใต้เรียกว่าไม้พรวงพร้าว ซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อนไม่สามารถที่จะนำมาทำอะไรได้ นอกจากเป็นตัวกรองอากาศในป่าเท่านั้น
ส่วนจะมีการปรับแผนเข้าทำการตรวจสอบการตัดไม้กฤษณาหรือไม่นั้น ปกติทางป่าไม้มีแผนในการปฏิบัติอยู่แล้ว หากมีเหตุการณ์อะไรก็จะสนธิกำลังเข้าทำการตรวจสอบทันที ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าอาจจะมีการลักลอบตัดไม้ และบุกรุกแผ้วถางป่าเกิดขึ้นจากที่เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ดังนั้น สิ่งที่ต้องดำเนินการคือ การสร้างเครือข่ายในการเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ของรัฐในการรักษาป่า และปลุกจิตสำนึกให้แก่ประชาชนในการหวงแหนผืนป่าในพื้นที่ของตัวเอง
นายเชวง กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบผู้ที่เข้ามาลักลอบตัดไม้กฤษณาน่าจะเป็นคนนอกพื้นที่ภูเก็ต ที่เข้ามาลักลอบตัดโดยใช้ขวานบากไปเรื่อยๆ จนต้นไม้ล่มลงมา หลังจากนั้นก็บากหากแกน แต่ไม่พบแกนแต่อย่างใด จึงทิ้งซากไว้ดังกล่าวไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบไม้กฤษณาที่ถูกตัดโค่นจนล้มไปแล้วประมาณ 10 ต้น และที่ยังยืนต้นอยู่มีประมาณ 100 ต้นในพื้นที่สวนป่าบางขนุน ซึ่งไม้กฤษณาดังกล่าวจะไม่มีแกนที่จะนำไปผลิตเป็นหัวเชื้อน้ำหอม
