สุราษฎร์ธานี - หนุ่มใหญ่ชาวสวนยางพาราบุกร้องสื่อ หลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานใต้ร่มเย็น จังหวัดสุราษฎร์ธานี บุกตัดต้นยางพาราอายุกว่า 5 ปี เสียหายกว่า 1,500 ต้น แจ้งความเรื่องเงียบหายกว่า 1 ปี หมดสิทธิขอรับเงินช่วยเหลือ 2,520 ต่อไร่จากรัฐบาล เข้าทำกินไม่ได้ทั้งๆ ที่พื้นที่ครอบครองทำกินมานานกว่า 30 ปี แต่มาถูกอุทยานฯ ประกาศเขตทับพื้นที่ปี 34
วันนี้ (21 ก.ย.) นายสมจัด นุราช อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120/70 หมู่ที่ 3 ตำบลเพิ่มพูลทรัพย์ อำเภอบ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี เกษตรกรชาวสวนยาง ได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน พร้อมพาผู้สื่อข่าวเข้าดูพื้นที่สวนยางพาราที่ถูกตัดโค่น โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2555 ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานใต้ร่มเย็นจำนวนหนึ่งบุกเข้าตัดโค่นต้นยางพาราที่มีอายุกว่า 5 ปี จำนวนกว่า กว่า 1,500 ต้น ในพื้นที่ประมาณ 14 ไร่ จนได้รับความเสียหาย
นายสมจัด ระบุว่า ตนได้รับการแบ่งปันที่ดิน จำนวน 24 ไร่ มาจากครอบครัว เมื่อประมาณปี 2522 โดยมีหลักฐานการเสียภาษีให้แก่ท้องถิ่น (ทบ.5) มาตั้งแต่ปี 2522 พร้อมปลูกยางพาราจนต้นยางมีอายุกว่า 30 ปี ต่อมา ได้ทำการปลูกต้นยางเพื่อซ่อมแซมต้นที่ตายไป แต่มาถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ บุกเข้าตัดทำลายโดยไม่มีคดีความมาก่อน หลังเกิดเหตุตนได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านนาสาร แต่เรื่องเงียบหายไม่มีความคืบหน้า ทุกวันนี้ได้รับความเดือดร้อนหนัก จากที่ครอบครัวเคยมีรายได้วันละกว่า 2,000 บาท ต้องหดหายไปกว่าครึ่ง เนื่องจากเข้าพื้นที่แปลงดังกล่าวไม่ได้ หมดสิทธิขอขึ้นทะเบียนเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือปัจจัยการผลิต จำนวน 2,520 บาทต่อไร่จากรัฐบาลอีกด้วย
“เนื่องจากพื้นที่ถูกอายัดจากอุทยานฯ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว ทางอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นได้มาประกาศเขตทับที่ทำกินของเกษตรกรในพื้นที่ อำเภอเวียงสระ อำเภอบ้านนาสาร และอำเภอกาญจนดิษฐ์ กว่า 20,000 ไร่ เมื่อปี 2534 ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนยางหลายพันครัวเรือนได้รับผลกระทบ จนรวมตัวขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางจังหวัดได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ชะลอการดำเนินการต่างๆ ออกไปก่อนเพื่อรอการพิสูจน์สิทธิ แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ฝ่าฝืนคำสั่งตัดทำลายต้นยางพาราของเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงขอเรียกร้องขอให้ทางการรัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขโดยด่วน
วันนี้ (21 ก.ย.) นายสมจัด นุราช อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120/70 หมู่ที่ 3 ตำบลเพิ่มพูลทรัพย์ อำเภอบ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี เกษตรกรชาวสวนยาง ได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน พร้อมพาผู้สื่อข่าวเข้าดูพื้นที่สวนยางพาราที่ถูกตัดโค่น โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2555 ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานใต้ร่มเย็นจำนวนหนึ่งบุกเข้าตัดโค่นต้นยางพาราที่มีอายุกว่า 5 ปี จำนวนกว่า กว่า 1,500 ต้น ในพื้นที่ประมาณ 14 ไร่ จนได้รับความเสียหาย
นายสมจัด ระบุว่า ตนได้รับการแบ่งปันที่ดิน จำนวน 24 ไร่ มาจากครอบครัว เมื่อประมาณปี 2522 โดยมีหลักฐานการเสียภาษีให้แก่ท้องถิ่น (ทบ.5) มาตั้งแต่ปี 2522 พร้อมปลูกยางพาราจนต้นยางมีอายุกว่า 30 ปี ต่อมา ได้ทำการปลูกต้นยางเพื่อซ่อมแซมต้นที่ตายไป แต่มาถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ บุกเข้าตัดทำลายโดยไม่มีคดีความมาก่อน หลังเกิดเหตุตนได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านนาสาร แต่เรื่องเงียบหายไม่มีความคืบหน้า ทุกวันนี้ได้รับความเดือดร้อนหนัก จากที่ครอบครัวเคยมีรายได้วันละกว่า 2,000 บาท ต้องหดหายไปกว่าครึ่ง เนื่องจากเข้าพื้นที่แปลงดังกล่าวไม่ได้ หมดสิทธิขอขึ้นทะเบียนเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือปัจจัยการผลิต จำนวน 2,520 บาทต่อไร่จากรัฐบาลอีกด้วย
“เนื่องจากพื้นที่ถูกอายัดจากอุทยานฯ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว ทางอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นได้มาประกาศเขตทับที่ทำกินของเกษตรกรในพื้นที่ อำเภอเวียงสระ อำเภอบ้านนาสาร และอำเภอกาญจนดิษฐ์ กว่า 20,000 ไร่ เมื่อปี 2534 ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนยางหลายพันครัวเรือนได้รับผลกระทบ จนรวมตัวขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางจังหวัดได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ชะลอการดำเนินการต่างๆ ออกไปก่อนเพื่อรอการพิสูจน์สิทธิ แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ฝ่าฝืนคำสั่งตัดทำลายต้นยางพาราของเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงขอเรียกร้องขอให้ทางการรัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไขโดยด่วน