xs
xsm
sm
md
lg

“พืชกระท่อม” กับความมั่นคงชายแดนใต้ / ไชยยงค์ มณีพิลึก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พืชกระท่อมที่มีการลักลอบนำเข้าจากมาเลเซียแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตรวจจับได้
 
คอลัมน์ : จุดคบไฟใต้
โดย...ไชยยงค์  มณีพิลึก
 
ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นอกจากเรื่องการก่อการร้ายเพื่อแบ่งแยกดินแดนแล้ว ยังมีปัญหา “ทับซ้อน” อื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง และเพิ่มอุณหภูมิของความร้อนแรงให้เพิ่มมากขึ้น และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่า ภัยแทรกซ้อนดังกล่าวคือ เรื่องการระบาดของการค้ายาเสพติด และขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน
 
ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา “ภัยแทรกซ้อน” จึงมีการมุ่งเป้าหมายในยังการปราบปรามกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด และน้ำมันเถื่อน เพื่อลดปัญหาของภัยแทรกซ้อน จนสุดท้ายกลายเป็นว่า เจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงานที่ได้ใช้คำว่าภัยแทรกซ้อนแสวงหาผลประโยชน์ด้วยการเรียกเก็บ “ส่วย” ทั้งจากผู้ค้าน้ำมันเถื่อน และยาเสพติด
 
เป็นที่รู้กันทั้งประเทศว่า ในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นมียาเสพติดชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “สี่คูณร้อย” ซึ่งเป็นที่นิยมของกลุ่มเยาวชน กลุ่มวัยรุ่น ทั้งชาย และหญิง และยาเสพติดชนิดนี้มี “สารตั้งต้น” ที่มาจาก “ใบกระท่อม” โดยนำเอาใบกระท่อมมาต้มผสมกับยาแก้ไอ ยาแก้ไข้หวัดหลายยี่ห้อ และ “น้ำดำ” ซึ่งเป็นน้ำอัดลมยี่ห้อดัง รวมทั้งส่วนผสมอื่นๆ ตามแต่ความนิยมของผู้ผลิต
 
เมื่อใบกระท่อมคือสารตั้งต้นที่ขาดไม่ได้ในการผลิตยาเสพติดสี่คูณร้อย ราคาของใบกระท่อมที่นำมาขายยังพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จึงมีราคาแพงกว่าที่อื่นๆ ของประเทศไทย บางแห่งขายกันเป็นใบ บางแห่งขายกันเป็นกิโลกรัมๆ ละ 20,000-30,000 บาท ถ้ามีการจับกุมมาก ราคาก็ยิ่งแพงขึ้น เพราะตลาดมีความต้องการมาก
 
ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ใบกระท่อมจากจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ ตั้งแต่ จ.ชุมพร ลงมาจนถึง จ.พัทลุง จึงกลายเป็นสินค้าผิดกฎหมายที่ถูก “ซุกซ่อน” มากับขบวนการขนส่งหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ซุกซ่อนมากับรถบรรทุกสินค้า รถส่วนตัว ทั้งกระบะ และเก๋ง รวมถึงการส่งทางไปรษณีย์
 
ในระยะหลังมีการลักลอบน้ำเข้าใบกระท่อมจากประเทศมาเลเซีย ทั้งทางด่านสะดา ด่านปาดังเบซาร์ และด่านบ้านประกอบ ใน จ.สงขลา และด่านชายแดน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มีประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าสู่ขบวนการนำเข้าใบกระท่อมจากประเทศมาเลเซียอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เพราะที่ประเทศมาเลเซียพืชกระท่อมไม่ใช่พืชที่ผิดกฎหมาย จึงมีการปลูกได้และขายได้ และปัจจุบันลูกค้าที่สำคัญคือ คนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
 
วันนี้ใบกระท่อมจึงเป็นสินค้าที่มีราคาแพง เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างไม่จำกัดจำนวน และเป็น “ช่องทาง” ให้เจ้าหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ โดยการเก็บส่วยจากกลุ่มผู้ค้าเป็นรายเที่ยว รายเดือน และเก็บจากผู้ผลิตสี่คูณร้อยในพื้นที่ จนกลายเป็น “เงื่อนไข” ที่สร้างความโกรธแค้น ความไม่พอใจให้แก่เยาวชน และผู้คนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่อยู่ใน “วงจร” ของการค้าและการผลิตยาเสพติดสี่คูณร้อยดังกล่าว
 
การที่กระทรวงยุติธรรมมีความคิดที่จะถอดพืชกระท่อม หรือใบกระท่อมออกจากพืชเสพติด ซึ่งเป็นพืชเสพติดในประเภทที่ 5 และมีผู้ที่ขานรับความคิดนี้เป็นจำนวนมากนั้น ถ้ามองจากมุมที่ว่า ใบกระท่อมไม่ใช่ยาเสพติดที่ร้ายแรง และคนไทยใช้เป็นยาสมุนไพร เป็นยาชูกำลัง ทำให้ผู้ที่กินใบกระท่อมขยันในการทำงาน ไม่กลัวแดด และโทษตามกฎหมาย เมื่อถูกจับกุมมีโทษแค่จ่ายค่าปรับ
 
หลายคนจึงออกมาสนับสนุนให้มีการถอดพืชกระท่อมออกจาก พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ.2522 โดยมีผู้นำหน่วยงานหลายหน่วยที่มีหน้าที่แก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้มองว่า การถอดพืชกระท่อมออกจาก พ.ร.บ.ยาเสพติด จะลดเงื่อนไขในจังหวัดชายแดนภาคใต้คือ เจ้าหน้าที่จะได้ไม่ใช้ช่องทางของ พ.ร.บ.ยาเสพติดในการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ค้าใบกระท่อม และกับผู้เสพใบกระท่อม ความ “ขัดแย้ง” และไม่พอใจการกระทำของเจ้าหน้าที่ของคนในพื้นที่จะได้หมดสิ้นไป
 
นั่นคือการมองปัญหาที่ “ปลายเหตุ” เพราะปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้อยู่ที่ใบกระท่อม หรืออยู่ที่ยาเสพติดสี่คูณร้อยที่มีใบกระท่อมเป็นสารตั้งต้นในการผลิต และปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้คือ คนจำนวนมาก โดยเฉพาะเยาวชน วัยรุ่น ทั้งว่างงาน และทำงาน ทั้งชาย และหญิงกว่า 50% ติดยาเสพติดสี่คูณร้อยอย่าง “งอมแงม” แบบขาดไม่ได้ จนกลายเป็นปัญหาในเรื่อง “คุณภาพชีวิต” เพราะการติดสารเสพติดไม่ว่าจะประเภทไหน ถ้าติดจนงอมแงมย่อมเป็นภัยอันตราย ทั้งกับตนเอง และกับสังคม
 
เห็นด้วยกับ “อาศิส พิทักษ์คุมพล” จุฬาราชมนตรี ที่กล่าวกับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส.ที่เข้าหารือเรื่องการถอดพืชกระท่อมออกจาก พ.ร.บ.ยาเสพติดว่า จะนำมาซึ่งปัญหา เพราะปัจจุบันไม่ได้มีการนำใบกระท่อมไปใช้รักษาโรคภัยไข้เจ็บอย่างในอดีต แต่มีการนำมาใช้ผลิตยาเสพติด มีการติดยาเสพติดที่ผลิตจากใบกระท่อมเป็นจำนวนมาก และการติดยาเสพติดเป็นการผิดหลักศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าพืชกระท่อมไม่ใช่พืชที่ผิดกฎหมาย การนำมาใช้อย่างเสรีจะทำให้การระบาดของผู้ติดยาเสพติดสี่คูณร้อยขยายวงอย่างกว้างขวาง
 
ดังนั้น วันนี้จึงต้องมีการแยกประเด็นของใบกระท่อม กับยาเสพติดสี่คูณร้อยออกจากกัน ถ้าเห็นว่าพืชกระท่อม หรือใบกระท่อมเป็นยาสมุนไพร เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ก็ถอดพืชกระท่อมออกจาก พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ.2522 เพื่อให้มีการปลูก มีการใช้ มีการขายได้อย่างพืชอื่นๆ
 
แต่ในขณะเดียวกัน จะต้องมี พ.ร.บ.หรือกฎหมายที่เอาผิดกับยาเสพติดสี่คูณร้อย ที่มีใบกระท่อมเป็นสารตั้งต้นในการผลิต และผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหงอกทั้งดำก็อย่างเข้าใจว่า สี่คูณร้อยเป็นยาเสพติดที่สามารถใช้ทดแทน “ยาบ้า” และ “ยาไอซ์” หรือยาเสพติดอื่นๆ เช่น กัญชา เฮโรอีนได้ เพราะผู้เสพเป็นคนละกลุ่มกัน ไม่สามารถทดแทนกันได้
 
ถ้ามีการถอดพืชกระท่อมออกจาก พ.ร.บ.ยาเสพติด และไม่มีการใช้มาตรการในการจับกุมยาเสพติดสี่คูณร้อย สิ่งที่จะเกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็คือ จะมีโรงงานผลิตยาเสพติดสี่คูณร้อย ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมใหม่ เป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนขึ้นทุกหมู่บ้าน ทุกย่านตำบล และในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะ “คลาคล่ำ” ไปด้วยผู้ติดยาเสพติด ปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้จะรุนแรงยิ่งขึ้น และจะพัฒนาได้ยากเย็นกว่าเดิม.
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น