ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนร้ายอายุประมาณ 20 กว่าปี รูปร่างสูงล่ำ ตัดผมรองทรง บุกเดี่ยวทำทีเข้ามาซื้อของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาศักดิเดช อ.เมืองภูเก็ต อาศัยจังหวะพนักงานกำลังทอนเงินเอื้อมมือผ่านเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ชิงเงินสดไปเกือบ 5 พันบาท
เมื่อเวลา 23.55 น. วานนี้ (13 ก.ย.) ศูนย์วิทยุ ตร.ภูธรเมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพนักงานร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น สาขาศักดิเดช อำเภอเมืองภูเก็ต ว่า มีคนร้ายเข้าไปชิงเงินจากเคาน์เตอร์ของร้าน จึงประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต เข้าตรวจสอบ
หลังได้รับแจ้ง ร.ต.ท.สมบูรณ์ มาลัย ร้อยเวร สภ.วิชิต ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็นร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาศักดิเดช สาขาที่ 2,630 ของบริษัทงานหนึ่ง จำกัด ตั้งอยู่ที่ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พบพนักงานร้าน 2 คน อยู่ในอาการตกใจ และรีบให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
น.ส.นฤมล โชว์สูงเนิน พนักงานร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายผิวดำ อายุประมาณ 20 กว่าๆ รูปร่างสูงล่ำ ตัดผมรองทรง สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่ไม่มีลูกค้า มีเพียงพนักงาน 3 คนอยู่ในร้าน โดยตนกำลังทำหน้าที่แคชเชียร์ พนักงานคนหนึ่งกำลังจัดของ และอีกคนเดินไปเข้าห้องน้ำ คนร้ายจึงอาศัยจังหวะดังกล่าวทำทีเข้ามาซื้อของ และหยิบขนมปังจากในชั้นวางของ ก่อนเดินมาที่เคาน์เตอร์เพื่อจ่ายเงินด้วยธนบัตรใบละ 100 บาท 1 ใบ ตนจึงรับเงิน พร้อมกับเปิดช่องเก็บเงินเพื่อทอนเงินตามปกติ ระหว่างนั้นเองคนร้ายได้ใช้มือเอื้อมข้ามมาหยิบเงินในช่องเก็บเงิน ซึ่งเป็นธนบัตรฉบับต่างๆ หลายใบ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนั้นตนเองกลัวจะถูกทำร้ายจึงไม่กล้าขัดขืน หรือโวยวาย
ร.ต.ท.สมบูรณ์ มาลัย ร้อยเวร สภ.วิชิต กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นธนบัตรฉบับต่างๆ และเหรียญรวม 4,924 บาท โดยคนร้ายน่าจะเคยใช้บริการ หรือเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ล่วงหน้า เนื่องจากรู้จังหวะเวลา และเส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี ขณะที่กล้องวงจรปิดของร้านอยู่ในระหว่างซ่อมแซมจึงไม่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ได้ จึงจะต้องค้นหาภาพจากกล้องวงจรปิดตัวอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง และสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดเหตุชิงทรัพย์ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ดังกล่าว พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทุกพื้นที่เพิ่มความเข้มออกตรวจตราร้านสะดวกซื้อทุกแห่ง โดยเฉพาะในจุดเสี่ยงตลอดทั้งคืนเพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ
