นราธิวาส - บุกฆ่าโหดเอเยนต์ค้ามนุษย์แรงงานเถื่อนพม่ารายใหญ่ที่ อ.สุไหงโก-ลก แฉเป็นแหล่งหาผลประโยชน์ ค้าผิดกฎหมายทุกรูปแบบ
เมื่อเวลา 06.40 น. วันนี้ (6 ก.ย.) ร.ต.ท.สุรศักดิ์ พรหมหมาด ร้อยเวร สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนนหน้าบ้านเช่าเลขที่ 304 ถ.เจริญเขต ซอย 17 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิธารน้ำใจสุไหงโก-ลก รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบนายทองพัน หงษา อายุ 35 ปี ซึ่งถือบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน เลขที่ 100 (42) พ ม.3 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งถูกกระสุนปืนพกของคนร้าย ขนาด 11 มม. และขนาด 9 มม. รวม 13 นัด ที่บริเวณลำตัวพรุนไปทั้งร่าง
โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 11 มม. จำนวน 8 ปลอก และปลอกกระสุนปืนพกขนาด 9 มม. จำนวน 5 ปลอก ตกอยู่บนถนนจึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิธารน้ำใจสุไหงโก-ลก นำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ผู้ตายกำลังกวาดใบไม้อยู่บนถนนหน้าบ้านเช่าอยู่นั้น ได้มีคนร้าย จำนวน 2 คน ขี่รถจักรยายนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะมาจอดข้างผู้ตาย จากนั้นคนร้ายทั้ง 2 คน ได้ชักอาวุธปืนพกขนาด 11 มม. และขนาด 9 มม. ออกมาจ่อยิงใส่ผู้ตาย จำนวน 13 นัดซ้อน จนผู้ตายล้มทั้งยืนก่อนที่คนร้ายจะรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องการขัดผลประโยชน์ในธุรกิจค้ามนุษย์ ที่ผู้ตายเป็นเอเยนต์ค้าแรงงานพม่ารายใหญ่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบในบ้านเช่าของผู้ตาย ยังพบชาวพม่าทั้งชาย และหญิง อาศัยอยู่ภายในบ้านหลายคน แถมบริเวณบ้านเช่าที่อยู่ในละแวกดังกล่าวยังพบชาวพม่าหลบซ่อนตัวในบ้านเช่าหลังอื่นๆ เป็นจำนวนมาก
รายงานจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่งแจ้งว่า พื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก นอกจากจะมีแรงงานเถื่อนแล้ว ยังเป็นที่ลำเลียงแหล่งพักยาเสพติด และยังมีการค้าธุรกิจค้ากาม เด็กหญิงอายุไม่เกิน 18 ปี การค้าน้ำมันเถื่อน แม้จะมีหน่วยงานเจ้าหน้าที่ส่วนกลางเข้ามาปราบปราม และจับกุมดำเนินคดีแล้วหลายครั้งแต่ก็ยังคงเป็นแหล่งค้าผิดกฎหมายในอันดับต้นในภาคใต้ เนื่องจากพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก ติดชายแดนประเทศมาเลเซีย จึงเป็นช่องทางให้ผู้มีอิทธิพล และเจ้าหน้าที่บางรายแสวงหาผลประโยชน์ดังกล่าว
