นราธิวาส - ค่าครองชีพใน อ.สุไหงโก-ลก ปรับสูงขึ้นมาก หลังรัฐบาลปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม ขณะที่ไข่ไก่จากมาเลเซียทะลักเข้ามาพื้นที่เพราะแม่ค้าสู้ราคาไข่ไก่ในประเทศไม่ไหว วอนรัฐบาลดูแลด่วน
พิษค่าครองชีพพุ่งสูง ซึ่งเป็นผลพวงจากการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม และค่าไฟฟ้าของรัฐบาล ส่งผลให้ราคาสินค้าในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาไข่ไก่ที่ปรับขึ้นรายวัน และอาหารทะเล เช่น กุ้งขนาดเล็ก ที่ล่าสุด ปรับขึ้นจากกิโลกรัมละ 110 บาท เป็น 150-160 บาท
ผู้ประกอบการร้านสหายไข่ ซึ่งเป็นผู้ค้าส่งแหล่งใหญ่ของ อ.สุไหงโก-ลก กล่าวว่า ขณะนี้หนักใจกับราคาไข่ไก่ที่ปรับสูงขึ้น เพราะการจำหน่ายไข่ไก่ที่ไปรับมาจากหน้าฟาร์มของบริษัท เบทาโกร จำกัด ต้องมีการบวกค่าขนส่งไปด้วย ซึ่งราคาที่จำหน่ายไข่ไก่เบอร์ 0 ฟองละ 4.50 บาท หรือแผงละ 135 บาท ไข่เบอร์ 1 ฟองละ 4.20 บาท หรือแผงละ 126 บาท ไข่เบอร์ 2 ฟองละ 4.10 บาท หรือแผงละ 123 บาท ไข่เบอร์ 3 ฟองละ 4.00 บาท หรือแผงละ 120 บาท ไข่เบอร์ 4 ฟองละ 3.90 บาท หรือแผงละ 117 บาท
โดยยอมรับว่าการปรับขึ้นค่าพลังงานของรัฐบาลส่งผลให้ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น และราคาวัตถุดิบในการประกอบอาหารก็ได้ปรับขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งราคาไข่ไก่ในประเทศที่ปรับสูงขึ้น ทำให้ต้องประสบปัญหาการตีตลาดของไข่ไก่จากประเทศมาเลเซียที่มีราคาถูกกว่ามาก เช่น ไข่ไก่เบอร์ 2 ที่แม่ค้าในตลาดรับซื้อมาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 98 บาทต่อแผง ซึ่งถูกกว่าของไทยมากถึงแผงละ 25 บาท เนื่องจากร้านค้ารายย่อยสู้ราคาไข่ไก่ในประเทศไม่ไหว ซึ่งล่าสุด ส่งผลให้ยอดขายไข่ไก่ของร้านลดลงไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ โดยยังมีเฉพาะธุรกิจประเภทโรงแรม และโรงเรียนในพื้นที่ซึ่งยังสู้ราคาเพราะต้องการไข่ไก่คุณภาพดีในการใช้ประกอบอาหาร จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลหันมาสนใจปากท้อง และความเดือดร้อนของคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บ้างว่าขณะนี้ต้องประสบความเดือดร้อนรอบด้าน ทั้งปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบ และค่าครองชีพที่สูงขึ้นมากกว่าที่จะเป็นไปตามกลไกตลาดที่แท้จริง
ด้านนางพัชรีวรรณ จันทร์เล็กพัด ร้านเมย์เตี๋ยวต้มยำ อ.สุไหงโก-ลก ระบุว่า ขณะนี้ร้านต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายต้นทุนการผลิตต่อวันสูงถึง 4,000 บาท ในขณะที่เมื่อหักค่าใช้จ่ายซึ่งยังไม่รวมค่าจ้างคนงาน จะมีเงินคงเหลือประมาณ 1,000 บาทเศษ ซึ่งหากตนเองมีภาระต้องเช่าบ้านคงปิดกิจการไปนานแล้ว
ส่วนราคาอาหาร เช่น ข้าวผัดทะเลใส่ไข่ จานละ 50 บาท แทบไม่เห็นกำไร แต่ยืนยันยังไม่ขึ้นราคาเพราะต้องการรักษาลูกค้าขาประจำไว้ พร้อมวอนรัฐบาลเร่งดูแล และควบคุมค่าครองชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ด้วย
พิษค่าครองชีพพุ่งสูง ซึ่งเป็นผลพวงจากการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม และค่าไฟฟ้าของรัฐบาล ส่งผลให้ราคาสินค้าในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาไข่ไก่ที่ปรับขึ้นรายวัน และอาหารทะเล เช่น กุ้งขนาดเล็ก ที่ล่าสุด ปรับขึ้นจากกิโลกรัมละ 110 บาท เป็น 150-160 บาท
ผู้ประกอบการร้านสหายไข่ ซึ่งเป็นผู้ค้าส่งแหล่งใหญ่ของ อ.สุไหงโก-ลก กล่าวว่า ขณะนี้หนักใจกับราคาไข่ไก่ที่ปรับสูงขึ้น เพราะการจำหน่ายไข่ไก่ที่ไปรับมาจากหน้าฟาร์มของบริษัท เบทาโกร จำกัด ต้องมีการบวกค่าขนส่งไปด้วย ซึ่งราคาที่จำหน่ายไข่ไก่เบอร์ 0 ฟองละ 4.50 บาท หรือแผงละ 135 บาท ไข่เบอร์ 1 ฟองละ 4.20 บาท หรือแผงละ 126 บาท ไข่เบอร์ 2 ฟองละ 4.10 บาท หรือแผงละ 123 บาท ไข่เบอร์ 3 ฟองละ 4.00 บาท หรือแผงละ 120 บาท ไข่เบอร์ 4 ฟองละ 3.90 บาท หรือแผงละ 117 บาท
โดยยอมรับว่าการปรับขึ้นค่าพลังงานของรัฐบาลส่งผลให้ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น และราคาวัตถุดิบในการประกอบอาหารก็ได้ปรับขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งราคาไข่ไก่ในประเทศที่ปรับสูงขึ้น ทำให้ต้องประสบปัญหาการตีตลาดของไข่ไก่จากประเทศมาเลเซียที่มีราคาถูกกว่ามาก เช่น ไข่ไก่เบอร์ 2 ที่แม่ค้าในตลาดรับซื้อมาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 98 บาทต่อแผง ซึ่งถูกกว่าของไทยมากถึงแผงละ 25 บาท เนื่องจากร้านค้ารายย่อยสู้ราคาไข่ไก่ในประเทศไม่ไหว ซึ่งล่าสุด ส่งผลให้ยอดขายไข่ไก่ของร้านลดลงไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ โดยยังมีเฉพาะธุรกิจประเภทโรงแรม และโรงเรียนในพื้นที่ซึ่งยังสู้ราคาเพราะต้องการไข่ไก่คุณภาพดีในการใช้ประกอบอาหาร จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลหันมาสนใจปากท้อง และความเดือดร้อนของคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บ้างว่าขณะนี้ต้องประสบความเดือดร้อนรอบด้าน ทั้งปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบ และค่าครองชีพที่สูงขึ้นมากกว่าที่จะเป็นไปตามกลไกตลาดที่แท้จริง
ด้านนางพัชรีวรรณ จันทร์เล็กพัด ร้านเมย์เตี๋ยวต้มยำ อ.สุไหงโก-ลก ระบุว่า ขณะนี้ร้านต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายต้นทุนการผลิตต่อวันสูงถึง 4,000 บาท ในขณะที่เมื่อหักค่าใช้จ่ายซึ่งยังไม่รวมค่าจ้างคนงาน จะมีเงินคงเหลือประมาณ 1,000 บาทเศษ ซึ่งหากตนเองมีภาระต้องเช่าบ้านคงปิดกิจการไปนานแล้ว
ส่วนราคาอาหาร เช่น ข้าวผัดทะเลใส่ไข่ จานละ 50 บาท แทบไม่เห็นกำไร แต่ยืนยันยังไม่ขึ้นราคาเพราะต้องการรักษาลูกค้าขาประจำไว้ พร้อมวอนรัฐบาลเร่งดูแล และควบคุมค่าครองชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ด้วย