บลจ.ไทยพาณิชย์ยิ้มธุรกิจโตต่อเนื่อง เตรียมลุยธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเต็มสูบ มั่นใจขึ้นแท่น 1 ใน 3 ของอุตสาหกรรมได้
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจปีนี้เราประเมินว่ายังคงมีแนวโน้มโตต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน บลจ.ไทยพาณิชย์มูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ทั้งสิ้น 6.7 แสนล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจกองทุนรวม 5.59 แสนล้านบาท ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล 3.7 หมื่นล้านบาท และธุรกิจกองทุนสำรองเพื่อการเลี้ยงชีพ 7.9 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการแข่งขันระดมเงินฝากของธนาคารได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกองทุนบ้าง ดังนั้น บลจ.ไทยพาณิชย์จึงจะพยายามหากองทุนที่ให้ผลตอบแทนน่าพึงพอใจ และตรงต่อความต้องการของผู้ลงทุนเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น เช่น กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น
นางโชติกากล่าวต่อว่า เราตั้งเป้าที่จะผลักดันให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ AUM ขึ้นมาติดอันดับ 1 ใน 3 ของอุตสาหกรรม จากข้อมูลล่าสุด ณ เดือน พ.ค.ที่มีขนาดกองทุนมูลค่า 7.9 หมื่นล้านบาท หรืออยู่ในอันดับที่ 4 ของอุตสาหกรรม
โดยในช่วงไตรมาส 3-4 นี้จะเข้าสู่รอบการสิ้นสุดสัญญาบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของหลายบริษัท จึงมีแผนที่จะเข้าร่วมเสนอใบประกวดราคา (Terms of Reference : TOR) เพื่อขอบริหารกองทุนฯ แทนที่ บลจ.อื่น โดยกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ที่น่าสนใจได้แก่ บริษัทรัฐวิสาหกิจ เช่น บมจ.ปตท. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บมจ.ทีโอที ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ส่วนบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กนั้น บลจ.ไทยพาณิชย์จะร่วมมือกับธนาคารแม่เพื่อเข้าไปนำเสนอข้อมูลการบริหารกองทุน ซึ่งภายในเดือน มิ.ย.นี้คาดว่าจะเดินสายให้ข้อมูลเสร็จสิ้น 500 บริษัท และจะมีส่วนช่วยผลักดันให้มูลค่า AUM ขยายตัวอีกทางหนึ่ง
“เป้าปีนี้เราจะพยายามทำให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพขึ้นแท่น 1 ใน 3 ของอุตสาหกรรมให้ได้ โดยจะมาจากการเพิ่มจำนวนของลูกค้าใหม่ทั้งขนาดใหญ่และเล็กควบคู่ไปกับการรักษาลูกค้าเดิมไว้ด้วย ซึ่งปัจจุบันก็ได้เจรจากับทั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นลูกค้าใหญ่ๆ รายเดิมคงจะไม่หายไปไหน”
