ตรัง - พ่อแม่เด็กชายวัย 2 ขวบ โวยครูศูนย์เด็กเล็ก อบต.เกาะลิบง ปล่อยให้ลูกถูกรุ่นพี่ทำร้ายเจ็บปางตาย จนต้องหามส่ง รพ. นอนรอดูอาการ 2 คืน หวั่นแทรกซ้อน พร้อมแจ้งความเอาผิด
เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ (8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง ได้รับร้องเรียนจากนายธนา ผลิผล อายุ 32 ปี และนางอารยา เบ็ญสะอาด อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 ม.4 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง สองสามีภรรยา ว่า ลูกชายถูกนักเรียนโรงเรียนเดียวกันทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกันตัง ทราบชื่อคือ ด.ช.ซิต (นาสมมติ) อายุ 2 ปี 7 เดือน นักเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.เกาะลิบง โดยอยู่ในสภาพใบหน้าบวมฟกช้ำดำเขียว รวมทั้งแผ่นหลังด้วย ขณะนี้กำลังนอนซมให้น้ำเกลืออย่างไร้เดียงสา โดยมีนายธนา และนางอารยา พ่อและแม่ เฝ้าดูแลอาการด้วยความเป็นห่วงอย่างใกล้ชิด
จากการสอบถาม นางอารยา เบ็ญสะอาด แม่ของเด็กกล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนก็ไปส่งน้องซิตไปเรียนหนังสือ และก็กลับมาทำงานตามปกติ ระหว่างนั้น เวลา 13.30 น. ก็มีครูประจำชั้น จำนวน 2 คน ได้มาหาที่บ้าน แต่ไม่ยอมพูดอะไร บอกเพียงให้ตนรีบไปดูน้องซิต เมื่อตนไปถึงก็เห็นสภาพใบหน้าของลูกตาบวมฟกช้ำดำเขียวเหมือนถูกทำร้ายมา แต่เมื่อสอบถามครูประจำชั้นก็บอกว่าไม่ทราบ และไม่เห็นว่าเด็กถูกใครทำร้าย ทำให้ตนถึงกับเข่าอ่อนร้องไห้ด้วยความสงสารลูก จากนั้นครูประจำชั้นคนดังกล่าวก็ให้ยาแก้อักเสบมารับประทานที่บ้าน แต่อาการไม่ดีขึ้น ตนจึงปรึกษากับสามีตัดสินใจนำลูกส่งโรงพยาบาลดังกล่าว และหมอให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 2 คืน เพื่อรอดูอาการเพราะเกรงว่าจะมีโรคแทรกซ้อน
นางอารยา บอกอีกว่า จากการสอบถามเพื่อนๆ ในห้องของลูกทำให้ทราบว่า ขณะเกิดเหตุได้มีคู่กรณีเป็นเด็กชาย อายุ 3 ปีกว่า ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกชายตน และในจังหวะนั้นได้มีเพื่อนๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์วิ่งไปแจ้งให้ครูประจำชั้นทราบแล้ว แต่ครูคนดังกล่าวกลับนิ่งเฉย และไม่ยอมไปดู กระทั่งปล่อยจนลูกชายตนบาดเจ็บ และยังไม่กล้าที่จะบอกความจริงให้ตนทราบอีก ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุตนได้เข้าพบกับผู้ปกครองเด็กชายคนดังกล่าวแล้วเพื่อขอเจรจา แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.กันตัง
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางอารยา ถือว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของครูประจำชั้น ที่ปล่อยให้เด็กถูกทำร้ายร่างกายโดยที่ไม่ดูแลให้ดี ดังนั้น ในฐานะพ่อและแม่ จึงอยากจะเรียกร้องให้ครูประจำชั้นออกมาแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ เพราะหลังจากเกิดเหตุ ยังไม่มีน้ำใจโผล่หน้ามาเยี่ยมลูกศิษย์ ทำให้ตน และสามีรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องมาเจอสภาพเช่นนี้
เนื่องจากบ้านที่อยู่อาศัยอยู่ใกล้กับทะเล และบ่อน้ำทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย และกลัวลูกจะเป็นอันตราย ดังนั้น ตนจึงตัดสินใจนำลูกมาฝากให้ครูที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.เกาะลิบง เพื่อหวังให้ช่วยดูแล แต่สุดท้ายลูกตนกลับไม่ปลอดภัยในชีวิตมากกว่า อีกทั้งตนและสามีก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำ ซึ่งการที่ลูกตนต้องมานอนพักรักษาตัวที่ รพ.เช่นนี้ ต้องมีค่าใช้จ่ายวันละ 1,000-2,000 บาท แล้วตนจะหาเงินที่ไหนมารักษาลูก ส่วนสภาพจิตใจของลูกชายขณะนี้ยังอยู่ในอาการหวาดกลัวว่าจะมีใครมาทำร้ายอีก และถามอะไรก็ไม่ยอมพูด